❝ หิน เป็นวัสดุที่มีลวดลายสวยงามเป็นธรรมชาติ และไม่ซ้ำกัน โดดเด่นที่ความแข็งแรงทนทาน ซึ่งหินแต่ละชนิด เช่น “หินเทียม หินธรรมชาติ” จะมีคุณสมบัติการนำไปใช้งาน และการดูแลแตกต่างกัน อย่างหินที่ปูพื้นภายในบ้านควรมี พื้นผิวเรียบมันเพื่อให้เดินสบายเท้า หินปูพื้นภายนอกบ้านควรมีพื้นผิวหยาบ เพื่อป้องกันลื่น และหินตกแต่งผนังสามารถเล่นลวดลาย และพื้นผิวได้หลากหลาย ❞
ในบทความนี้ KACHA จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ หินเทียม และ หินธรรมชาติ ว่ามีคุณสมบัติ และการใช้งานอย่างไร?
หินเทียม คืออะไร?
หินสังเคราะห์ หรือเรียกว่าหินเทียม เป็นหินที่ผลิตออกมา เพื่อทดแทนการใช้หินธรรมชาติ มีข้อดีมากกว่าหินธรรมชาติ ทั้งความแข็งแรง ผิวหน้าที่ทนกว่า และสีสันที่ไม่ผิดเพี้ยนในแต่ละแผ่น
1. หินเทียมที่ผลิตขึ้นจาก อะคริลิค 100%
หินสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นจากอะคริลิก 100% บางครั้งเรียกว่า Solid Surface ได้รับความนิยมในการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และทางการแพทย์มากขึ้นเรื่อย ๆ
คุณสมบัติ และการใช้งาน |
---|
|
2. หินเทียมอะคริลิกผสมโพลีเอสเตอร์
หินเทียมประเภทนี้ จะมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความแข็งแรงคงทนทาน ไม่ดูดซึมน้ำ และสามารถทนความร้อนได้เป็นอย่างดี หินเทียมประเภทนี้จะดัดโค้งค่อนข้างยาก ทำให้ตอบสนองต่องานออกแบบที่มีลักษณะโค้งได้ไม่ทั้งหมด มีความต้านทานต่อการเกิดรอยด่างสูงกว่าหินแกรนิต และสามารถทนต่อความร้อนได้สูงถึง 200 องศาเซลเซียส
คุณสมบัติ และการใช้งาน |
---|
|
3. หินเทียมโปร่งแสงอลาบาสเตอร์ (Alabaster)
หินโปร่งแสงเป็นหินที่แสงสามารถส่องผ่านมวล เนื้อหินได้ มีลวดลายสีสันสวยงาม นิยมใช้ในงานตกแต่งเป็นหลัก เนื่องจากเนื้อหินประเภทนี้มีรูพรุน มีอัตราการดูดซึมน้ำสูง จึงไม่เหมาะกับงานอุตสาหกรรมอาหาร หรืองานใด ๆ ที่ต้องสัมผัสน้ำเป็นประจำ
คุณสมบัติ และการใช้งาน |
---|
|
หินธรรมชาติและหินเทียม เป็นแบบไหนบ้าง?
-
หินขัด
หรือ เทอราซโซ (Terrazzo) จะเป็นการผสมซีเมนต์ หินเกล็ด สีซีเมนต์ และน้ำเข้าด้วยกันแล้วเทหล่อลงพื้นที่เตรียมไว้ เมื่อแห้งจะขัดหน้าผิวให้เรียบเงา การปูหินขัดนั้น สมควรจะมีรอยต่อเป็นระยะ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้พื้นหินร้าว จะง่ายต่อการเทซ่อมแค่ช่วงระยะที่มีปัญหา ไม่ต้องลาดเทใหม่ไปตลอดทั้งพื้น ราคาต่อตารางเมตรของหินขัดนั้นย่อมเยาว์กว่าหินแกรนิต หรือหินอ่อนพอสมควร ในปัจจุบันมีรีสอร์ทหลากหลายแห่งเลือกใช้หินขัดในการทำพื้น เนื่องจากให้ความรู้สึกอ่อนโยนเป็นธรรมชาติ และสามารถทำลวดลายได้หลากหลาย โดยการใช้แนวรอยต่อให้เป็นประโยชน์
-
หินขัดสำเร็จรูป
การทำหินขัดในแบบหล่อเป็นแผ่น ๆ เพื่อให้สามารถนำไปติดตั้งด้วยการปู คล้ายกับกระเบื้องปูพื้น โดยใช้ปูนทราย หรือกาวซีเมนต์ เป็นตัวยึดเกาะแผ่นหินขัดสำเร็จรูปกับพื้น
-
หินกาบ
ในปัจจุบัน เราจะพบว่าแนวคิดหวนคืนสู่ธรรมชาติได้กลับมาได้รับความนิยมสูงขึ้นมาก การตกแต่งพื้นที่บ้าน ทั้งภายในและภายนอก ด้วยวัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้ หรือวัสดุไม้เทียม หิน หรือวัสดุเลียนแบบหิน เพื่อสร้างบรรยากาศบ้านคนเมืองให้ดูเหมือนได้ใกล้ชิด และอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ จึงมีให้เห็นได้ทั่วไปในหลาย ๆ โครงการบ้านจัดสรร และหินกาบ เป็นอีกวัสดุหนึ่งที่คนนิยมนำมาใช้ประดับประดา เพื่อเพิ่มความสวยงามตามแนวคิดหวนคืนสู่ธรรมชาติ
-
หินทราย
มีผิวสัมผัสเป็นทรายละเอียด มีหลายสี ซึ่งจะเป็นสีอ่อนสบายตา มีทั้งแบบผิวธรรมชาติ ผิวต๊อก ผิวขัดเรียบ ผิวพ่นไฟ แบบตัดด้วยมือ และตัดด้วยเครื่อง สีของหินทรายที่มีวางจำหน่ายตามท้องตลาด ได้แก่ เหลือง, แดง, ขาว, เขียว เป็นต้น
-
หินล้าง, กรวดล้าง, ทรายล้าง
เป็นการตกแต่งตกแต่งพื้นผิวให้มีผิวสัมผัสดูเป็นธรรมชาติ โดยการใช้วัสดุจากธรรมชาติ (หิน กรวด ทราย) มาเป็นส่วนผสม ใช้ร่วมกับส่วนผสมหลักปูนซีเมนต์ขาว เพื่อให้ผิวสัมผัสออกมาเป็นธรรมชาติ สามารถใช้ได้ในงานตกแต่งพื้น ผนัง ทั้งภายใน และภายนอกอาคาร ข้อดีของหินล้าง กรวดล้าง ทรายล้าง คือ มีผิวสัมผัสดูเป็นธรรมชาติ สามารถออกแบบได้ตามความต้องการ เพราะสามารถใช้ส่วนผมสได้อย่างอิสระไม่จำกัดรูปแบบขึ้นอยู่กับการออกแบบ จึงเหมาะสำหรับใช้งานในภายนอก ในส่วนของทางเดินภายนอกอาคารที่ปราศจากหลังคาคลุม พื้น หรือลานทำกิจกรรมกลางแจ้ง รวมถึงพื้นทางเดินรอบสระว่ายน้ำ และใช้งานในส่วนของโครงการรีสอร์ทต่าง ๆ
-
หินอ่อน (Marble)
คือ หินที่เกิดจากแคลเซียลคาร์บอเนตที่สะสมอยู่ในท้องทะเล หรือมหาสมุทรที่เกิดกระบวนการทางธรณีขึ้น เกิดแมกมาที่มีความร้อน ความดัน และก๊าซไหลออกมาจากใต้โลก และมากระทบกับหินที่อยู่ใต้ทะเล จึงทำให้แคลเซียมคาร์บอเนตละลาย และตกผลึกจนเกิดเป็นหินอ่อนขึ้นมา แต่จะมีบางส่วนที่ยังไม่ตลกผลึกจากการหลอมละลาย ก็จะเกิดเป็นหินปูนที่คล้ายกับหินอ่อน ใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง และหินประดับ เช่น ปูพื้นอาคาร, ปูผนัง แต่หินอ่อนจะเหมาะสำหรับ กรุผนังห้องน้ำ มากกว่าปูพื้นอาคาร เพราะดูแลรักษาง่ายกว่า
หินเทียม VS หินธรรมชาติ
แม้ว่า หินธรรมชาติ จะขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง, ความคลาสสิก, และมูลค่าของหินที่อาจทำให้มูลค่าของที่พักสูงขึ้นตามไปด้วย แต่เมื่อพิจารณาที่ปัจจัยสำคัญอื่นประกอบ เช่น ความสะอาด, สุขอนามัย, การดูแลรักษา, และอายุการใช้งาน หินธรรมชาติถือเป็นวัสดุปิดผิวที่ผู้คนรักบ้านบางท่านอาจหลีกเลี่ยง เพราะคุณสมบัติดูดซึมน้ำ จากลักษณะภายในเนื้อหินที่เป็นรูพรุนมักนำมาสู่ปัญหารั่วซึม และปัญหาเชื้อราเรื้อรัง หลายท่านที่ไม่อยากเสียเวลา และค่าใช้จ่ายซ่อมแซมอยู่เป็นประจำ จึงมักเลือกหินเทียมแทน เนื่องจากสามารถป้องกันการซึมน้ำได้โดยเฉพาะ รวมทั้งยังมีหลายลวดลาย และสีสันให้เลือกได้มากกว่าอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าคุณสมบัติและคุณประโยชน์ของหินเทียมนั้น มีแต่จุดเด่นสำคัญที่ควรค่าแก่การใช้งานอย่างปฏิเสธไม่ได้ มากกว่าหินธรรมชาติ ไม่เป็นที่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้กลายมาเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของใครหลายคนที่กำลังออกแบบบ หรือตกแต่งภายในที่อยู่อาศัย หรือธุรกิจของตนเอง
>>สามารถติดตามบทความต่าง ๆ ของ KACHA ได้ตามนี้เลย<<