เช็กลิสต์ วิธีเลือก ช่างทาสี เลือกยังไงให้งานออกมาดี มีคุณภาพ!
ผ่านมรสุมมากมาย หลากหลายฤดู ถึงเวลาต้องซ่อมแซมบ้านใหม่ ไม่ว่าจะเกิด ผนังลอกล่อน มีคราบตะไคร่น้ำ เชื้อราเกาะบนผนัง ซึ่งความทรุดโทรมจากพายุฝน จากแสงแดดที่สาดส่อง จนสีบ้านซีดจาง นอกจากจะทำให้บ้านสวยน้อยลงแล้ว ยังเป็นสัญญาณเตือนให้ทราบว่า สีบนผนังเริ่มเสื่อมสภาพ และถึงเวลาที่ต้องซ่อมแซมผนังบ้านให้กลับมาใหม่เสียที จะทาสีเองก็กลัวไม่สวยงาม จะเลือกช่างทาสี ก็กลัวจะโดนหลอก กลัวงานไม่ได้คุณภาพ
บทความนี้ KACHA จะพาทุกคนไป Checklist การเลือก “ช่างทาสี” เลือกอย่างไร? ทาสีบ้าน ให้ได้งานที่มีคุณภาพ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
โดยทั่วไปแล้ว อายุของ สีทาบ้านเกรดธรรมดา จะมีอายุประมาณตั้งแต่ 1-5 ปี แต่หากสภาพแวดล้อมทำให้บ้านต้องเจอศึกหนัก ทั้งพายุฝน ลมแรง แดดร้อนจัด อาจจะทำให้สีบนผนังเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ประสิทธิภาพในการปกป้องอาคารน้อยลง และเกิดทัศนียภาพที่ไม่สวยงามกับบ้าน
ก่อนจ้าง ช่างทาสี มีเรื่องอะไรต้องดูบ้าง?
ไม่ว่าคุณจะทาสีเอง หรือคิดจ้างช่างทาสี ก็ต้องทำความเข้าใจเรื่องพื้นฐานของการทาสีบ้าน โดยทั่วไปแล้ว เจ้าของบ้านควรพิจารณาปัจจัยหลักก่อนเริ่มทาสีบ้าน 3 อย่าง ได้แก่ ขนาดพื้นที่ทั้งหมด พื้นที่ที่จะทาสี และความแตกต่างระหว่างภายใน และภายนอกบ้าน ซึ่งมีรายละเอียดที่ต้องพิจารณา ดังนี้
ขนาดพื้นที่ของบ้าน ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ อันส่งผลต่อการทาสีบ้านก็ว่าได้ เพราะจะช่วยให้เราประเมินได้เบื้องต้นว่า จะตัดสินใจทาสีบ้านเอง หรือจำเป็นต้องจ้างช่างทาสีมืออาชีพมารับผิดชอบ หากคุณตั้งใจจะทาสีเอง ก็ต้องคิดต่อไปว่าเราจะทาสีบ้านตรงบริเวณไหนเองบ้าง จำกัดเฉพาะห้อง หรือจะทาเองทั้งหมด
|
หัวใจสำคัญในการ ทาสีบ้าน คือ เตรียมพื้นผิวของบริเวณที่จะทาให้เรียบเนียน เพราะจะช่วยลดการเตรียมงานได้มากพอสมควร โดยงานเตรียมพื้นผิวก่อนลงสี ก็มีขั้นตอนซับซ้อนไม่น้อย โดยเฉพาะบ้านที่มีอายุการใช้งานมานานหลายปี
|
องค์ประกอบสุดท้าย ที่ต้องพิจารณาเมื่อจะเริ่มทาสีบ้าน คือ ดูว่างานทาสีนั้น เป็นงานตกแต่งภายใน หรือภายนอก หากว่ากันตามตรงแล้ว การตกแต่งภายนอกเป็นงานที่มีขั้นตอนซับซ้อนมากกว่า เพราะต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นแสง สภาพแวดล้อม อุณหภูมิ และอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเปลี่ยนแปลงของสี และสภาพผนังได้
|
ข้อควรรู้ ก่อนจะเลือก ช่างทาสี มีอะไรบ้าง?
การเลือกตามหาช่างทาสี เพื่อให้งานออกมาได้ตรงกับมาตรฐานนั้นไม่ได้เป็นเรื่องง่ายขนาดนั้น ใครที่กำลังกลุ้มใจอยู่ ไม่ต้องกังวลไป มาดูทริคดี ๆ ในการเลือกช่างทาสี มาฝากกัน
???? ความน่าเชื่อถือ
ความน่าเชื่อถือของช่างทาสี นับว่ามีความสำคัญอย่างมาก โดยอาจหาข้อมูลเบื้องต้นว่า ช่างที่จ้างเป็นบริษัทรับเหมา หรือรับเหมาเองโดยตรง มีข้อมูลติดต่อช่องทางใดบ้าง มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มน้ำหนักในเรื่องคุณภาพงานได้มากขึ้น
- บริษัทรับเหมา
รูปแบบของบริษัทรับเหมา ส่วนใหญ่มีมาตรฐานการทำงาน การบริการ และบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ถึงการรับประกันผลงานทาสี สร้างความน่าเชื่อถือมากกว่าผู้รับเหมาทั่วไป ซึ่งหากคุณเลือกผู้รับเหมาทาสีบ้านที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ คุณอาจจะต้องเสียทั้งเงิน และเวลาก็เป็นได้
อ่านบทความ : “ผู้รับเหมา” เลือกอย่างไร? ไม่ให้โดนทิ้งงาน!
- Website/ Page/ Line
ข้อมูลติดต่ออย่างเป็นทางการ ก็มีความสำคัญไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่ากัน ช่างทาสี ที่จะจ้างมา ควรมีข้อมูลการติดต่อที่ชัดเจน เช่น เว็บไซต์หลัก ที่สร้างความน่าเชื่อถือมากที่สุด เพจ Facebook ที่มีการอัปเดตรีวิวผลงานอย่างสม่ำเสมอ และ Line อย่างเป็นทางการ เพื่อใช้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยติดต่อสื่อสารกันโดยตรง
???? ความสามารถ และความชำนาญของช่างทาสี
หลัก ๆ ต้องมีความรู้ ประสบการณ์ และความชำนาญในด้านทาสีโดยตรง โดยสังเกตได้จากการให้คำแนะนำ การแก้ไขปัญหาหน้างาน การตอบข้อซักถาม เพื่อให้แน่ใจว่า มีความรู้ความเข้าใจในด้านการทาสีบ้านมากน้อยเพียงใด ถือเป็นการประเมินความรู้ของช่างก่อนที่จะได้ปฏิบัติงานจริง หากคุณเลือกช่างที่ไม่มีความรู้ และความชำนาญอย่างแท้จริง อาจทำให้ผลงานที่ออกมาไม่ตรงกับสิ่งที่คาดหวัง
???? การวางแผนขั้นตอนการทำงานทาสี
การวางแผนขั้นตอนการทำงาน เพื่อทราบถึงกำหนดการ วัน และเวลางานเสร็จที่ชัดเจน ทั้งยังช่วยให้ดูมีความเป็นช่างทาสีมืออาชีพ โดยขั้นตอนแรก เริ่มจากอะไร สิ่งของ และเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่ภายในบ้านต้องทำอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการขนย้าย การดูแล และปกป้องเฟอร์นิเจอร์ การวางแผนงานทำให้มองเห็นภาพรวมของการทำงานมากขึ้น เพื่อลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้จากการทำงาน
???? การเลือกผลิตภัณฑ์ทาสีบ้าน
อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญก่อนทาสีบ้าน คือ การเลือกผลิตภัณฑ์ทาสีบ้านที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน ยิ่งคุณภาพสูงเท่าไหร่ ราคายิ่งสูงตามคุณภาพสีเท่านั้น ซึ่งมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้านสีให้เลือกตอบโจทย์ผู้บริโภคมากมาย เช่น อายุการใช้งาน ความติดทนทาน ป้องกันร้อนสะท้อนรังสี UV ป้องกันเชื้อโรค และการเช็ดล้างทำความสะอาดง่าย ก็เป็นหลักในการเลือกสีทาบ้านให้เหมาะสมกับบ้านของเรา ฉะนั้น อย่าเห็นแก่สีทาบ้านที่มีราคาประหยัด จนละเลยคุณภาพของสีทาบ้านอย่างเด็ดขาด
???? การควบคุมงบประมาณ
แน่นอนว่า การทาสีบ้านแต่ละครั้ง จะต้องมีการตั้งงบประมาณ และราคาที่สามารถรับได้เอาไว้ในใจ เบื้องต้นผู้ที่ต้องการทาสี ต้องเช็กราคาพื้นฐาน ค่าบริการ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ค่าแรง และค่าสีเท่านั้น ยังรวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในงานทาสี จึงควรสอบถามให้มั่นใจก่อนที่จะตกลงใช้บริการ นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดที่เพิ่มเติมเข้ามา ทั้งการเตรียมพื้นที่ การขนย้ายสิ่งของ การติดตั้งนั่งร้าน การเดินทาง ว่าช่างทาสีคิดค่าบริการในส่วนนี้ด้วยหรือไม่
???? เลือกช่างทาสีจากผลงานที่ผ่านมา
การดูรีวิวผลงานที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่สามารถทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ในการจ้างช่างสักคนมาทาสีบ้านของเรา รวมถึงการอ่านความคิดเห็นของผู้ที่เคยใช้บริการคนก่อนหน้า ฟังคำแนะนำ คำบอกต่อ ก็จะทำให้เราสามารถเลือกช่างที่ดี มีคุณภาพ และเหมาะสมกับงานทาสีที่เราต้องการ
???? การรับประกันผลงาน
การรับประกันผลงาน เป็นแรงจูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้บริการทาสี จึงควรสอบถามช่างให้แน่ใจ ถึงการรับประกันผลงานว่ามีกำหนดระยะเวลาในการรับประกันหรือไม่ โดยอย่างน้อย ควรมีรับประกันผลงาน 1 ปี นอกจากนี้ อย่าลืมสอบถามถึงรายละเอียดเงื่อนไขการรับประกัน ข้อยกเว้น อย่างการซ่อมสี การปรับแต่งพื้นที่เฉพาะจุดในกรณีที่เกิดปัญหา ซึ่งจำเป็นต้องสอบถามช่างให้แน่ใจก่อนตกลงเลือกใช้บริการ
การดูแลบ้านหลังทาสี มีอะไรบ้าง?
อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้งานทาสีบ้านออกมาสมบูรณ์แบบ คงหนีไม่พ้นเรื่องดูแลรักษาพื้นผิว เพื่อให้สีติดคงทนนาน ไม่สึกกร่อนตามกาลเวลา โดยวิธีดูแลสีตามผนังบ้าน แบ่งออกเป็น การดูแลสีทาภายในบ้าน และการดูแลสีทาภายนอกบ้าน ดังนี้
1. การดูแลสีทาภายในบ้าน
- เลือกใช้ผ้าม่านกันแสง วิธีนี้จะช่วยป้องกันแสงแดดจากภายนอกไม่ให้ส่องเข้ามามากเกินไป ช่วยให้สีที่ทาภายในยังดูสด ใหม่ ไม่ถูกแดดกลืนจนสีซีดไปตามกาลเวลา
- ทำความสะอาดสม่ำเสมอ ไม่ควรปล่อยให้ผนังเกิดคราบจนกลายเป็นรอยด่างดำ โดยอาจใช้ฟองน้ำชุบน้ำสบู่หมาด ๆ มาเช็ดบริเวณคราบเลอะ หรือร่องรอยตำหนิบนผนังออกให้หมดจด
- เลือกใช้สีทาบ้านคุณภาพ โดยเลือกใช้สีที่คุณสมบัติป้องกันเชื้อรา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราตามผนัง โดยเฉพาะห้องน้ำ ที่เกิดเชื้อราได้ง่าย
2. การดูแลสีทาภายนอกบ้าน
- ฉีดน้ำทำความสะอาด วิธีนี้จะช่วยกำจัดคราบฝุ่น และสิ่งสกปรกไม่ให้เกาะตามผนังนอกบ้าน ทำให้บ้านของคุณไม่ดูเก่า และโทรม หากคุณเพิ่งเริ่มทาสีบ้าน ควรทำความสะอาดด้วยการฉีดน้ำแรงดันสูง หลังจากผ่านไปแล้วประมาณ 5-6 ปี ส่วนระเบียง หรือเฉลียงอาจทำความสะอาดปีละครั้ง
- เคลือบสีทาบ้าน เพื่อป้องกันไม้ผุกร่อนตามกาลเวลา
- ทาสีซ้ำ ควรทาสีซ้ำ 2 ครั้งสำหรับพื้นผิวที่เป็นไม้ ส่วนพื้นผิวทั่วไปให้ทาสีซ้ำทุก ๆ 6-10 ปี เพื่อให้สีดูสดใหม่อยู่เสมอ
เพื่อให้งาน ทาสีบ้าน ของคุณสะดวก สบาย งานออกมามีคุณภาพมากขึ้น เราขอแนะนำตัวช่วยดี ๆ เครื่องลอกสี ลอกสีผนัง สินค้าคุณภาพจาก KACHA รับรองความปลอดภัย พร้อมให้บริการหลังการขายสุดประทับใจอย่างแน่นอน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อควรรู้ก่อนเลือกช่างทาสีที่เรานำมาฝากกัน คงจะทำให้หลาย ๆ คน ที่กำลังจะปรังปรุงบ้าน ได้เตรียมความพร้อมก่อนจะลงมือทำงานจริง เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพ และที่สำคัญอย่าลืมศึกษาหาข้อมูลจากหลาย ๆ ที่ หลาย ๆ ผู้รับเหมา เพื่อพิจารณากันด้วยนะจ๊ะ ????????
>>สามารถติดตามบทความต่าง ๆ ของ KACHA ได้ตามนี้เลย<<
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง :