รู้จักกับ ผ้าใบ คืออะไร? ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง?
ปกป้องสิ่งของจากสภาพอากาศภายนอกด้วย ผ้าใบ ที่มีคุณสมบัติทั้งช่วยป้องกันแสงแดด ลม ฝน หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ
ผ้าใบที่ดีต้องมีคุณสมบัติอย่างไร สามารถใช้ประโยชน์อะไรบ้าง แล้วต้องเลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์การใช้งาน? ตาม KACHA ไปดูกัน!!
ผ้าใบ คืออะไร?
ผ้าใบ คือ ผ้าทอชนิดหนึ่งที่ผ่านกระบวนการผลิตด้วยการทาน้ำมันดินหรือเคลือบด้วยวัสดุกันน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำสามารถซึมเข้าไปได้ ปัจจุบันมีการพัฒนาด้วยการเคลือบด้วยวัสดุที่หลากหลาย ทำให้ตัวผ้าใบมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แต่คุณสมบัติโดยทั่วไปของผ้าใบทุกประเภท คือ มีความแข็งแรงและยืดหยุ่น จึงมักถูกนำมาใช้ในการป้องกันสิ่งของจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น แสงแดด ลม ฝน เพื่อป้องกันความเปียกชื้น สิ่งสกปรก ตลอดจนยืดอายุการใช้งานของสิ่งของนั้น ๆ เนื่องจากผ้าใบมีหลายประเภท มีหลายคุณสมบัติ ผู้ใช้ต้องเลือกให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
คุณสมบัติที่ดีของผ้าใบ
คุณสมบัติด้านล่างนี้เป็นคุณสมบัติที่ควรมีของผ้าใบที่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่ประเภทและชนิดของผ้าใบด้วยว่าถูกผลิตมาเพื่อจุดประสงค์ใด บางชนิดอาจมีคุณสมบัติหรือความเข้มข้นในแต่ละข้อมากน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งต้องพิจารณาให้เหมาะสมว่า ลักษณะงานที่ผู้ใช้ต้องการเป็นแบบใด หรือต้องการคุณสมบัติข้อไหนเป็นพิเศษหรือไม่ เป็นต้น
- กันน้ำ เป็นคุณสมบัติพื้นฐานของผ้าใบ ที่ช่วยปกป้องความชื้น ไม่ให้ถูกพื้นผิวของวัสดุต่าง ๆ
- ความทนทาน ความทนทานจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาผลิตและวิธีการทอ ซึ่งผ้าใบส่วนมากมักมีอายุการใช้งานประมาณ 1-7 ปี
- ทนต่อการกัดกร่อน ผ้าใบบางชนิดจะมีคุณสมบัติที่ทนต่อการกัดกร่อน เช่น แสงแดด น้ำมัน กรด เชื้อรา และจาระบีได้ดี ขึ้นอยู่กับวัสดุการเคลือบและวิธีการเคลือบผิวของตัวผ้าใบ
- ทนต่อการขัดถู วัสดุที่ต้องใช้ผ้าใบคลุมบางชนิดอาจมีลักษณะหรือรูปทรงที่มีความแหลมและคม ผ้าใบที่ดี ต้องสามารถทนพื้นผิวของวัสดุนั้นได้ ไม่แตกหรือฉีกขาดง่าย
ประเภทและการใช้งานผ้าใบ
1. ผ้าใบทาโพลีน (Tarpaulin)
โครงสร้างผลิตจากเส้นใยเคลือบพลาสติกใสทั้ง 2 ด้าน เนื้อผ้าค่อนข้างแข็ง ไม่ค่อยยืดหยุ่น ผิวมัน และค่อนข้างด้าน สามารถกันน้ำได้ 100%
- ชนิดตาข่าย (Mesh Tarps) เป็นผ้าใบที่มีการทอให้มีลักษณะเป็นตาข่าย มีรูขนาดเล็กเล็กระหว่างตัวผ้า มีความต้านทานลมที่ต่ำกว่าผ้าใบทาร์โพลีนชนิดอื่น ซึ่งผ้าใบชนิดนี้สามารถระบายอากาศ แสงแดด และความชื้นผ่านได้ ใช้คลุมสระว่ายน้ำ ใช้คลุมรถบรรทุกที่บรรทุกวัสดุที่ลมอาจจะพัดไปได้ เช่น หินขนาดเล็ก ก้อนกรวด ใช้ป้องกันพืชผักในเรือนเพาะชำ เป็นต้น
- ชนิดเคลือบไวนิล (Vinyl Tarps) มีความแข็งแรงสูง ฉีดขาดยาก ทนต่อสภาวะอากาศที่รุนแรง ทนต่อแรงเสียดสี สามารถต้านทานต่อไขมัน กรด และราได้ นิยมนำมาใช้ในงานในอุตสาหกรรม
- ชนิดแคนวาส (Canvas Tarps) เป็นผ้าใบชนิดที่มีความทนทาน โดยมักจะถูกเคลือบด้วยขี้ผึ้งเพื่อเพิ่มความสามารถในการป้องกันน้ำ โดยผ้าใบชนิดนี้จะสามารถระบายอากาศได้ดี ป้องกันเชื้อราและรังสียูวี จึงเป็นประเภทที่มักจะใช้คลุมสินค้ากลางแจ้ง เช่น คลุมเฟอร์นิเจอร์ในระหว่างการทาสีภายในอาคาร ใช้คลุมสิ่งของบนพื้นเรียบ
- ชนิดโพลีเอทิลีน (Polyethylene Tarps) สามารถกันน้ำได้ดี ยืดหยุ่น แข็งแรง ทนต่อรังสียูวี ทนต่อการสึกหรอ ราคาถูก แต่ระบายอากาศได้ไม่ค่อยดี
- ชนิดโพลีเอสเตอร์ (Polyester Tarps) กันน้ำ และช่วยป้องกันแสงแดดได้ เหมาะสำหรับใช้สร้างเป็นที่พักพิงชั่วคราว
- ชนิดโพลีคอตตอน (Poly-Cotton Canvas Tarps) ผสมผสานกันระหว่างโพลีเอสเตอร์กับผ้าฝ้าย สามารถกันน้ำได้ ระบายอากาศได้ดี ฉีกขาดยาก เก็บความชื้นได้น้อย
2. ผ้าใบคูนิล่อน (Kunilon)
ผ้าใบประเภทนี้มีเส้นใยสังเคราะห์และสารเคลือบรังสียูวีเกือบ100% จึงเป็นผ้าใบที่เหมาะสำหรับการใช้กันแดดมากที่สุด ช่วยป้องกันรังสียูวีได้ดี แสงลอดผ่านได้เพียงแค่เล็กน้อย ส่วนมากผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ เคลือบด้วยพีวีซี มีความยืดหยุ่นสูง ทนทาน ไม่ขาด ทนต่อแรงดึงหรือแรงลมได้ดี ส่วนเนื้อผ้าจะเรียบเนียนและค่อนข้างนิ่ม ไม่กระด้าง สามารถกันน้ำได้ 100% เป็นชนิดที่นิยมนำมาทำกันสาดมาก เพราะทนทาน มีสีให้เลือกเยอะ แต่อย่างไรก็ตาม สีของผ้าใบกันแดด จะมีผลต่อการลอดผ่านของแสงแดดด้วย
เหมาะสำหรับ : ติดตั้งทุกที่ ไม่ว่าเป็น บ้าน อาคารสำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร นิยมใช้เป็นผ้าใบสำเร็จรูป ใช้คลุมกองสินค้า ผ้าใบคลุมรถบรรทุก เต็นท์พักอาศัย เต็นท์โกดังสินค้า ผ้าใบกัดสาด ผ้าใบกันแดด
3. ผ้าใบใส/ผ้าใบพลาสติกใส (Vinistar)
โครงสร้างผลิตจากพลาสติก PVC โปร่งใส แสงลอดผ่านได้ 100% และกันน้ำซึมได้ 100 % เป็นผ้าใบที่มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ฉีกขาดง่าย ผิวจะเรียบเนียน มันวาว และมีเนื้อนิ่ม ผ้าใบพลาสติกใสใช้เพื่อกันฝนเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับใช้กันแดด เหมาะสำหรับใช้ในเวลากลางคืนเป็นส่วนใหญ่ และใช้เพื่อกันฝนเพียงอย่างเดียว เมื่อติดตั้งแล้วจะให้ความรู้สึกโปร่งสบายตา ไม่ทำให้พื้นที่มืดลง
เหมาะสำหรับ : คลุมเครื่องจักร คลุมสิ่งของ ทำเป็นหลังคา(ป้องกันฝนหรือละอองน้ำ) คลุมสินค้าที่ต้องการโชว์ หรือใช้ในร้านอาหารที่เปิดให้บริการในเวลากลางคืน หรือพื้นที่ที่ใช้เพื่อกันฝนเพียงอย่างเดียว
4. ผ้าใบอ๊อกฟอร์ด (Oxford)
ส่วนประกอบสำคัญของผ้าอ๊อกฟอร์ดคือ คอตตอน หรือ ผ้าฝ้าย (Cotton) ลักษณะการทอจะเป็นตารางขนาดเล็กเคลือบด้วยสารพิเศษเพื่อให้กันน้ำได้ น้ำหนักเบา ยืดหยุ่นดี ระบายอากาศดี ผิวสัมผัสนุ่ม แสงแดดสามารถส่องผ่านได้ช่วยเพิ่มความสว่าง ให้ความรู้สึกไม่อึดอัด ช่วยป้องกันฝุ่น มลพิษทางอากาศ ผ้าใบประเภทนี้จะมีเนื้อผ้าที่ค่อนข้างหยาบ ช่วยป้องกันแสงแดดได้ดีเมื่อถูกแสงแดดเนื้อผ้าจะมีความประกายเงาคล้ายกากเพชร ดูเรียบหรู มีความบาง โปร่งลม
เหมาะสำหรับ : คลุมสิ่งของปกป้องแสงแดด สิ่งสกปรก ทำร่มโรงแรม ร่มริมสระ และร่มชายหาด
วิธีเลือกซื้อ ผ้าใบ ให้ตอบโจทย์
- คำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการใช้งาน เช่น ถ้าต้องการกันฝน และอยากได้ความปลอดโปร่ง ควรเลือกผ้าใบประเภทพลาสติกใส หรือถ้าต้องการกันแสงแดด หนา แข็งแรง ก็อาจจะเลือกผ้าใบประเภทคูนิล่อน เป็นต้น
- เลือกขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน ควรวัดขนาดที่ต้องการของพื้นที่ หรือสิ่งของก่อนว่ามีขนาดเท่าไหร่ เพื่อเลือกซื้อได้ถูกต้อง เนื่องจากมีหลายขนาดให้เลือก
- เลือกจากทรงของผ้าใบ เช่น หากต้องการใช้บังแดดหรือกันสาด ก็อาจเลือกซื้อผ้าใบกันสาดแบบสำเร็จรูปพร้อมติดตั้ง แต่หากต้องการใช้งานแบบอเนกประสงค์ก็อาจเลือกสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นต้น
- เลือกจากคุณภาพสินค้า ปัจจุบันมีการผลิตผ้าใบออกมาหลายเกรด จึงควรเลือกชนิดที่คุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน เพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
- ตรวจดูข้อบกพร่องของผ้าใบก่อนใช้งาน ว่ามีรอยขาด หรือชำรุด เสียหายตรงไหนหรือไม่
จะเห็นได้ว่า ผ้าใบ มีหลากหลายชนิด หลากหลายคุณสมบัติ ผู้ใช้ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อประสิทธิภาพในการกันแดด กันฝน ตลอดจนป้องกันสิ่งสกปรก ทั้งวัสดุในการผลิต วัสดุในการเคลือบ การถักทอ รวมถึงกระบวนการผลิตที่คุณภาพ เพื่อให้ได้ผ้าใบหรือผ้าใบกันสาดที่ยอดเยี่ยม ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด
บทความที่น่าสนใจ :
ขอบคุณข้อมูลจาก : TPE, คมนคร, PremiumForu