บริษัทรับเหมาก่อสร้าง vs ผู้รับเหมา ต่างกันไหม? เลือกแบบไหนดีกว่ากัน
เมื่อพูดถีงงานก่อสร้าง หลาย ๆ คนก็คงจะนึกถึง ขั้นตอน กระบวนการก่อสร้างต่าง ๆ และหนึ่งในนั้นที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ นั่นคือ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง หรือผู้รับเหมา นั่นเอง ซึ่งก็มีหลากหลายแบบ หลากหลายประเภท หลากหลายการทำงานที่แตกต่างกัน แล้วจะเลือกแบบไหนดี เพราะมีทั้งแบบบริษัท และแบบรายย่อย
บทความนี้ KACHA จะพาไปรู้จักกับ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง และ ผู้รับเหมารายย่อย ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดีกว่ากัน
รู้ไหมว่า ประเภทของผู้รับเหมา ที่เรารู้จักกันนั้น สามารถแบ่งประเภทของผู้รับเหมาได้ 2 ประเภท คือ ผู้รับเหมารูปแบบบริษัท และ ผู้รับเหมารายย่อย
รู้จักกับ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง
คือ ผู้รับเหมาที่มีการจดทะเบียนเป็นบริษัท ที่ให้บริการครบวงจร และ มีทีมงาน และมีการแบ่งงานอย่างชัดเจน ซึ่งได้รับความเชื่อใจจากลูกค้าค่อนข้างมาก เพราะมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ชัดเจน สถานที่สามารถตรวจสอบได้ และสามารถรับงานใหญ่ ๆ ได้ เช่น การก่อสร้างโครงการหมู่บ้าน การก่อสร้างตึกสูง เป็นต้น
การให้บริการของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง มีดังนี้
- มีบริการให้คำปรึกษาสำหรับการก่อสร้าง เป็นตัวเลือกที่ทำให้ลูกค้า สามารถวางแผนการก่อสร้างได้อย่างเหมาะสม
- มีการออกแบบแปลนสถานที่ก่อสร้าง เพื่อให้เห็นแบบจำลอง ทำให้ง่ายต่อการก่อสร้าง อย่างไรก็ตามบางบริษัท อาจจะไม่มีบริการนี้ และอาจจะต้องติดต่อผู้เขียนแบบเอง
- มีครบทุกการให้บริการงานก่อสร้าง เช่น มีพนักงาน ทีมงานสำหรับก่อสร้าง มีทีมวิศวกร โฟร์แมนต่าง ๆ ที่จะช่วยในส่วนการควบคุมดูแลงานก่อสร้างส่วนต่างๆ ทั้งงานโครงสร้าง และตกแต่ง เป็นต้น
- มีบริการรื้อถอน สำหรับบางบริษัทรับเหมาะ ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกให้บางบ้านที่ต้องการรีโนเวทบางส่วน หรือรื้อถอนเพื่อสร้างบ้านใหม่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตามที่กล่าวมาข้างต้น บางบริษัทอาจจะไม่มีบริการทั้งหมด ในการเลือกบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ควรต้องเลือกให้ดี หาข้อมูล ดูรีวิวจากลูกค้าเก่า ๆ ของบริษัทรับเหมานั้น ๆเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการติดต่อประสานงาน ในส่วนที่ไม่มีบริการนั่นเอง แต่ถ้าเป็นผู้รับเหมารูปแบบบริษัท การดำเนินงานจะเป็นไปตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในสัญญาจ้าง
รู้จักกับ ผู้รับเหมา หรือผู้รับเหมารายย่อย
คือ บุคคลที่รับจ้างก่อสร้างอาคาร หรือสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ โดยวิธีเหมา ไม่ว่าจะเป็นผู้รับเหมารายเล็ก-รายใหญ่ แต่อาจจะไม่ได้ให้บริการครบวงจรเหมือนกับรูปแบบบริษัท ส่วนใหญ่จะรับงานประเภทสร้างบ้าน งานต่อเติม ปรับแต่งรีโนเวทบ้าน หรืองานเฉพาะทาง เช่น งานเหล็ก งานเดินท่อ เป็นต้น
การให้บริการของผู้รับเหมารายย่อย มีดังนี้
- บริการงานก่อสร้าง เช่น โครงสร้าง โดยจะเน้นการก่อสร้างเป็นหลัก เช่น งานโครงสร้างของอาคาร เทปูน หล่อเสา ฐานราก และคาน
- บริการงานวางระบบ เช่น ระบบไฟ ระบบท่อและประปา หรือช่างเทคนิคอื่น ๆ ซึ่งบางผู้รับเหมาอาจจะไม่มีบริการ อาจจะต้องติดต่อช่างเฉพาะทางเอง
- บริการงานตกแต่ง และสถาปัตย์ ส่วนมากจะมาคู่กับงานก่อสร้าง หากเป็นการตกแต่งที่มีรูปแบบเฉพาะ และผู้รับเหมารายย่อยไม่มีบริการ อาจจะต้องติดต่อช่างเฉพาะทางมาติดตั้งเอง
อย่างไรก็ตาม ผู้รับเหมารายย่อย จะดำเนินงานเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ได้ดี สามารถควบคุมงานได้ง่าย แต่มีข้อเสีย คือ อาจต้องดำเนินการติดต่อบางส่วนแยกเอง เช่น นักเขียนแบบ หรือ สถาปนิก เพื่อให้เขียนแบบให้แล้ว เพื่อให้ผู้รับเหมา ดำเนินการก่อสร้างได้นั่นเอง
อ่านบทความ: “ผู้รับเหมา” เลือกอย่างไร? ไม่ให้โดนทิ้งงาน!
ความแตกต่างระหว่าง บริษัทรับเหมาก่อสร้าง และ ผู้รับเหมา
ความแตกต่างระหว่างผู้รับเหมาทั้ง 2 ประเภทนี้ มีข้อดี-ข้อเสีย ดังนี้
บริษัทรับเหมาก่อสร้าง
- ด้านการดำเนินงาน จะมีสัญญา ข้อตกลงร่วมกันในขั้นตอนการดำเนินงาน ทำให้ทำงานได้อย่างเป็นระบบตามขั้นตอนในสัญญาจ้าง ข้อเสีย คือ ไม่ค่อยมีความยืดหยุ่นเหมือนผู้รับเหมารายย่อย
- ด้านความน่าเชื่อถือ จะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าผู้รับเหมารายย่อย เพราะมีการจดทะเบียนบริษัท มีสถานที่ตั้งบริษัทอย่างชัดเจน สามารถทำการตรวจสอบ และติดตามการดำเนินการก่อสร้างได้ง่าย หมดห่วงเรื่องการทิ้งงาน เพราะมีเอกสารการว่าจ้างที่ชัดเจน หากทิ้งงาน หรือ ดำเนินงานไม่เป็นไปตามที่สัญญากำหนด ผู้จ้างสามารถดำเนินคดีกับผู้รับเหมาได้
- ด้านคุณภาพ สามารถการันตีคุณภาพงานได้ มีเครดิต พอร์ตผลงานต่าง ๆ ที่ตรวจสอบได้ชัดเจน งานที่ได้ค่อนข้างตรงตามมาตรฐานที่กำหนดเอาไว้ หากงานไม่เสร็จ ไม่ผ่านมาตรฐาน บริษัทรับเหมาจะไม่สามารถส่งงานให้ลูกค้าได้ ซึ่งเป็นข้อดี และเป็นผลดีมาก ๆ ต่อลูกค้า
- ด้านราคาในการก่อสร้าง อาจจะสูงกว่าผู้รับเหมารายย่อย เพราะมีบริการที่ครบครัน แต่ราคาจะอยู่ในมาตรฐานราคาก่อสร้าง ไม่สูงจนเกินไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตกลง และ สัญญาว่าจ้างด้วย
ผู้รับเหมารายย่อย
- ด้านการดำเนินงาน จะมีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามหน้างาน เพราะไม่ต้องคำนึงถึงสัญญาเหมือนรูปแบบบริษัท สามารถดำเนินงานได้ง่าย แต่ต้องระวัง เพราะผู้รับเหมาบางราย ไม่มีสัญญาจ้างเหมือนบริษัทรับเหมา อาจเกิดปัญหาโดนทิ้งงาน หรือมีปัญหาตามมาได้ ควรเลือกผู้รับเหมาให้ดีด้วย
- ด้านความน่าเชื่อถือ ส่วนใหญ่จะมาจากเครดิตที่สร้างเอาไว้ หรือการบอกปากต่อปาก หากผู้รับเหมาทำงานดี คนก็จะแนะนำให้อีกคนรู้จักไปเรื่อย ๆ แต่อย่างไรต้องเลือกให้ดีด้วย โดยขอดูผลงานที่ผ่านมา มีการเข้าไปดูงานก่อสร้างจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจได้
- ด้านคุณภาพของงาน จะขึ้นอยู่กับแต่ละเจ้า ว่าทำงานดีมากน้อยแค่ไหน หากอยากได้งานที่ดี อาจจะต้องหาผู้รับเหมาที่มีเครดิตที่ชัดเจน แต่อย่าลืมตรวจสอบงานกับผู้รับเหมาก่อนทุกครั้งว่า หากเกินข้อผิดพลาด สามารถแก้ไขได้กี่ครั้ง หากมีการแก้เกินกว่าที่กำหนด อาจทำให้เสียเงินในการแก้ไขเพิ่มเติมได้
- ด้านราคาในการก่อสร้าง คิดค่าก่อสร้างถูกกว่า เพราะงานที่รับก่อสร้าง จะไม่ได้ครอบคลุมทุกด้าน เช่น งานซ่อมแซมโครงสร้าง แต่ไม่รับงานเดินระบบสายไฟ ซึ่งผู้ว่าจ้าง จะต้องหาเอง และจ่ายแยกเอง หากมีการแก้งาน อาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มในส่วนนี้ไปด้วย
จบไปแล้วความแตกต่างระหว่างบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และผู้รับเหมารายย่อย เรียกได้ว่าทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกันไม่มากเท่าไหร่นัก ขึ้นอยู่กับงานที่เราจะเลือก และค่าใช้จ่ายด้วย อย่างไรก็ตามจะสร้างบ้าน สร้างอาคาร สร้างโกดัง อย่าลืมศึกษาหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจเลือกผู้รับเหมาด้วย เลือกผู้รับเหมาที่ไว้ใจได้ และไม่ทิ้งงาน หรือปรึกษาทีมงาน จาก KACHA ของเราได้เช่นกัน
บทความดี ๆ น่าอ่าน:
- รู้จักกับ สถาปนิก คืออะไร? แตกต่างกับวิศวกรอย่างไร?
- วางแผน (ก่อน) ซ่อมแซมบ้าน เรื่องง่าย ๆ ต้องรู้อะไรบ้าง?
- การรีโนเวทบ้าน กฎหมายต่อเติมบ้าน ที่ไม่ควรมองข้าม!
- สาระน่ารู้เกี่ยวกับ “การสร้างบ้าน” ที่ควรรู้!
- ประเภทของ “งานก่อสร้าง” มีกี่แบบ?
KACHA ผู้จัดจำหน่าย รอกโซ่ รอกโซ่มือสาว เครนยกของ และอุปกรณ์เสริมสำหรับงานช่าง ต่าง ๆ ราคาจับต้องได้ สินค้าคุณภาพ บริการหลังการขายที่ประทับใจ นอกจากนี้ บริษัทของเรา ยังมีบริการรับ สร้างโกดัง สร้างโรงงาน สร้างคลังสินค้าต่าง ๆ จากช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ การันตีผ่านมาตรฐานก่อสร้าง และความปลอดภัยต่าง ๆ เข้าชมเว็บไซต์ www.kacha.co.th