สำหรับคนทั่วไป การหาช่างซ่อม ไม่ว่าจะเป็นการหา ช่างซ่อมบ้าน ช่างซ่อมแอร์ หรือแม้แต่ช่างอื่น ๆ นั้น ค่อนข้างจะเป็นเรื่องไกลตัว และหลายคนอาจไม่เคยนึกถึงถ้าปัญหายังไม่เกิด แต่หากวัสดุ ส่วนประกอบต่าง ๆ ในบ้าน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุด หรือเสียหายขึ้นมา การหาช่างซ่อมบ้าน จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมาในทันที
ตาม KACHA มาดูวิธีการหา ช่างซ่อมบ้าน และวิธีเลือกอย่างไร ให้ได้ช่างมืออาชีพ ไม่ให้โดนโกง
ช่างซ่อมบ้านทั่วไป ให้บริการซ่อมเรื่องอะไรบ้าง?
ปัจจุบันมีช่องทางหาช่างซ่อมบ้านมากมายบนโลกออนไลน์ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนทั่วไป ในการเรียกหาช่างซ่อมแซมบ้านได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบัน บริการหาช่างซ่อมบ้านส่วนใหญ่ มักครอบคลุมทั้งบริการซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน ติดตั้งอุปกรณ์ รวมไปถึงบริการอื่น ๆ ได้แก่
1. บริการทำความสะอาด
ส่วนนี้อาจไม่ใช่หน้าที่ของช่างซ่อมแซมบ้านเสียทีเดียว แต่เป็นบริการที่ส่วนใหญ่มักมาควบคู่กัน และควรทำก่อนที่จะมีอะไรเสียหาย เพราะการทำความสะอาดบ่อย ๆ ก็ช่วยให้วัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านมีอายุการทำงานนานขึ้น
การให้บริการ : ปัด กวาด เช็ดถู ดูดฝุ่น ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
2. บริการติดตั้งอุปกรณ์
แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับการซ่อมแซมบ้านโดยตรง แต่หากเริ่มถูกต้องตั้งแต่ติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านให้ถูกต้อง ก็ช่วยป้องกันการเสียหาย หรือชำรุดในอนาคตได้
การให้บริการ : ติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น แอร์ ตู้เย็น เป็นต้น
3. บริการช่างซ่อมแซมบ้าน
ปัจจุบันบริการหาช่างซ่อมบ้านนั้น ครอบคลุมงานซ่อมแซมบ้าน และอาคารแทบจะทุกประเภท งานระบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา รวมถึงช่างซ่อมแซมอุปกรณ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
การให้บริการ : ซ่อมงานระบบต่าง ๆ เช่น ไฟฟ้า ประปา ซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า
วิธีการเลือกช่างซ่อมบ้าน
หากต้องการอยากหาช่างซ่อมแซมบ้าน ให้ปลอดภัย ซ่อมได้ ไร้โกง ควรจะต้องพิจารณาปัจจัย ดังนี้
1. รู้จักปัญหาของอุปกรณ์ที่จะซ่อม
เมื่อมีอุปกรณ์ชำรุดเสียหาย ควรตรวจสอบก่อนว่าอาการเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น อาจเกิดมาสาเหตุอะไรได้บ้าง มีความเสียหายในส่วนไหน ผลที่เกิดขึ้นส่งผลต่ออุปกรณ์อย่างไร โดยสามารถสืบค้นข้อมูลได้จากอินเทอร์เน็ต ค้นหาจาก Google เพื่อหาความรู้เบื้องต้นในการสื่อสารกับช่าง เพื่อให้ช่างสามารถซ่อมได้ตรงจุดมากที่สุด
2. หาช่างซ่อม ที่สามารถไว้วางใจได้
บริการหาช่างซ่อมบ้าน มากมายในตลาดปัจจุบัน มีระบบรีวิวจากผู้ใช้งาน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการช่างซ่อม ควรหาข้อมูลรีวิวของผู้ใช้บริการที่ผ่านมา เพื่อประเมินว่า ช่างที่เราจะใช้บริการนั้น มีความน่าไว้วางใจมากแค่ไหน
3. พูดคุยถึงขอบเขตงานและตกลงราคาให้ชัดเจน
ก่อนที่จะเรียกใช้บริการ ควรถ่ายภาพ และเก็บรายละเอียดความเสียหายให้ชัดเจน เพื่อพูดคุยถึงปัญหา และขอบเขตการซ่อมกับช่าง โดยควรให้ช่างประเมินว่าความเสียหายขนาดนี้ ประเมินแล้วจะมีค่าใช้จ่ายเป็นราคาเท่าไร ระยะเวลาในการซ่อมนานแค่ไหน และจำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง
หากเมื่อหน้างานจริง มีความเสียหายเกินกว่าที่ช่างประเมินราคาไว้ ควรมีการตกลงกันก่อนหน้าว่า จะชำระเงินแบบไหน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาช่างโก่งราคาซ่อมนั่นเอง
4. อย่าเห็นแก่ราคา
บริการช่างซ่อมในปัจจุบัน มีหลากหลายราคา ด้วยการแข่งขันที่สูง ทำให้อาจมีการตัดราคากันเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคอย่างเรา ต้องอย่าเห็นแก่ของถูก แต่ควรตัดสินใจเลือกจากความเชี่ยวชาญในงานซ่อม คะแนนการรีวิว รวมไปถึงความชัดเจนในการพูดคุยด้วย
5. ตกลงวันและเวลาในการทำงานที่แน่นอน
เมื่อพบช่างที่ถูกใจ สื่อสารเรื่องการซ่อม และตกลงราคากันได้แล้ว ต่อมาคือ เรื่องของการนัดแนะวันเวลาในการทำงาน เนื่องจากงานซ่อมแซมบ้านบางอย่าง อาจส่งเสียงดังจนเป็นการรบกวนเพื่อนบ้านข้างเคียงได้ หากอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยว คงจะไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่หากอยู่อาศัยในคอนโด ควรแจ้งกับนิติบุคคลอาคารชุดถึงขอบเขตงานซ่อม วันและเวลาที่ช่างจะเข้ามา เพื่อให้นิติบุคคลอาคารชุดรับทราบ
6. ตรวจสอบการซ่อมอย่างใกล้ชิด
ไม่ว่าจะเป็นช่างที่เพิ่งใช้บริการ หรือช่างเก่าแก่ที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ก็ไม่ควรละเลยที่จะตรวจสอบการซ่อมอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการโกงในทุกรูปแบบ ป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับทรัพย์สิน และเพื่อให้เข้าใจปัญหาของอุปกรณ์ที่ซ่อมอย่างชัดเจน
คุยกับช่างซ่อมบ้านอย่างไร? ไม่ให้โดนโกง
งานซ่อมแซมบ้าน มักมีรายละเอียดหลายจุดที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ในบางงาน อาจมีวัสดุอุปกรณ์ที่เพิ่มเติมจากค่าบริการ ทำให้ช่างซ่อมบ้านบางราย อาจใช้ช่องว่างตรงนี้ เพื่อเอาเปรียบเจ้าของบ้าน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจใช้บริการช่างซ่อมบ้าน ควรตกลงกับช่างถึงรายละเอียดเหล่านี้ให้ชัดเจน ดังนี้
-
รายละเอียดวัสดุอุปกรณ์ที่เพิ่มเติมจากค่าบริการซ่อม
หากมีค่าวัสดุอุปกรณ์ที่นอกเหนือไปจากค่าบริการ ควรสอบถามรายละเอียดจากช่างให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นชนิดของวัสดุ จำนวน และความจำเป็นที่ต้องใช้ จากนั้นควรตรวจสอบราคาอุปกรณ์จากตลาดกับราคาจากช่างว่าใกล้เคียงกันหรือไม่ และตกลงกับช่างให้ชัดเจนว่า เราจะเป็นผู้จัดหา หรือคิดรวมไว้กับค่าบริการของช่าง
-
ตรวจสอบความเชี่ยวชาญและจำนวนของทีมงาน
ช่างบางราย จะมีการคิดค่าแรงของทีมงานในค่าบริการด้วย ดังนั้น ควรพูดคุยให้ชัดเจนว่างานซ่อมแซมบ้านครั้งนี้ จะต้องใช้ช่างจำนวนกี่คน คิดค่าบริการเท่าไร เพื่อป้องกันช่างคิดค่าบริการเพิ่มในภายหลัง และควรตรวจสอบว่า ทีมงานมีความเชี่ยวชาญในการซ่อมมากน้อยแค่ไหนด้วย
-
กำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน
หากเป็นงานซ่อมแซมบ้านครั้งใหญ่ ที่ต้องใช้ระยะเวลาหลายวัน ควรให้ช่างประเมินว่าจะใช้เวลาจำนวนกี่วัน ระยะเวลาสมเหตุสมผลหรือไม่ และควรตกลงค่าใช้จ่ายตามระยะเวลาที่กำหนดให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการทำงานล่าช้า และปัญหาช่างบวกค่าบริการเพิ่ม
เป็นอย่างไรกันบ้าง การมองหาช่างซ่อมบ้านนั้น ไม่ใช่แค่เพียงการเลือกช่างจากที่ไหนก็ได้ แต่ยังต้องพิจารณาถึงค่าบริการ ความน่าเชื่อถือ และความเชี่ยวชาญ ดังนั้น ควรพิจารณาเลือกใช้บริการช่างให้รอบคอบที่สุด เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของเราเอง
▼ ▼ ▼ ▼ ▼ ▼ ▼ ▼ ▼ ▼ ▼ ▼ ▼ ▼ ▼
สำหรับใครที่สนใจตัวช่วยเก็บอุปกรณ์ เราขอแนะนำ ที่แขวนเครื่องมือช่าง สินค้าคุณภาพจาก KACHA รับรองความปลอดภัย พร้อมให้บริการหลังการขายสุดประทับใจอย่างแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง :