รู้จักกับประเภท มู่ลี่ เลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์การใช้งาน
ป้องกันแสงแดดที่ส่องเข้ามาในบ้าน พร้อมตกแต่งให้ห้องมีเสน่ห์น่าดึงดูดด้วย “มู่ลี่” ไอเทมอเนกประสงค์ที่ควรมีไว้ที่บ้าน
แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร แล้วจะเลือกแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งาน ตาม KACHA ไปหาคำตอบกันเลย!
มู่ลี่ คืออะไร?
มู่ลี่ (Blinds) คือ ผ้าม่านชนิดหนึ่งที่ไม่ได้ใช้ผ้าทั้งผืนเป็นส่วนประกอบ แต่จะใช้วัสดุอื่นแทน เช่น อะลูมิเนียม ไม้ ไวนิล ฯลฯ มีลักษณะเป็นซี่เล็ก เรียงต่อกันเป็นแนวนอน ร้อยด้วยเชือกให้เป็นช่องโปร่ง มีรอกสำหรับดึงขึ้นลงเพื่อเปิด-ปิดหรือปรับระดับให้แสงผ่านได้ ขนาดตั้งแต่ 25, 35 และ 50 มม. มีให้เลือกหลายสี หลายลวดลาย ถือเป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยให้บ้านมีสีสัน กั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน ที่สำคัญ คือ ช่วยกันความร้อน กันแสงแดด ลดการสะสมอุณหภูมิความร้อนภายในบ้าน ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ซีดหรือผุพังเร็วจากความร้อนของแสงแดด
ประเภทของ มู่ลี่
1. มู่ลี่อะลูมิเนียม (Venetian Blinds)
หากวัสดุในการผลิตเป็นอะลูมิเนียมเกรดระดับสูง มู่ลี่ชนิดนี้จะมีความแข็งแรงทนทาน ไม่สึกกร่อนง่าย ทนต่อแสงแดด ความร้อนของอากาศประเทศไทย รวมถึงความชื้นในฤดูฝน ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเรื่องกเชื้อราเหมือนมู่ลี่ที่ทำมาจากไม้ ทั้งยังมีใบขนาดค่อนข้างบาง (บางสุดตั้งแต่ 16 มม.) เปิดใช้งานได้สะดวก ใช้พื้นที่ในการม้วนเก็บน้อย สามารถติดตั้งในพื้นที่ที่มีความชื้นได้ เช่น ห้องครัว และ ห้องน้ำ
2. มูลี่ไม้ (Wooden Blinds)
- ไม้รามิน (Ramin Wooden Blinds) ไม้รามินจัดเป็นไม้เนื้อแข็ง แข็งแรงกว่าไม้สนทั่วไป โดดเด่นด้วยลวดลายที่มีเอกลักษณ์สวยงาม ชนิดที่เคลือบสารปกป้อง UV จะทนต่อแสงแดด ช่วยลดการขยายตัวของไม้ ให้ใช้ได้ยาวนานขึ้น
- ไม้บาสวูด (Basswood Wooden Blinds) เป็นไม้เกรดคุณภาพ มีน้ำหนักเบา ร้องเสี้ยนตื้น มีสีเหลืองครีมนวลสม่ำเสมอตลอดทั้งใบ ผ่านการเคลือบสาร UV และเคลือบสารป้องกันเชื้อรา ช่วยป้องกันแสงแดด และความร้อนได้เป็นอย่างดี
- ไม้สแปนิช (Spanish Wooden Blinds) เป็นไม้ที่ได้คุณภาพจากประเทศสเปน ผ่านการอบแห้งและเคลือบสารปกป้อง UV ไม่ให้ไม้ยืดหรือหดจากสภาพแวดล้อม แล้วนำมาพิมพ์ลวดลายแบบ 3D ลงบนเนื้อไม้ ให้มีลายไม้ที่เหมือนจริง เด่นชัด สวยงาม มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
3. มูลี่พลาสติก (Plastic Blinds)
เป็นมู่ลี่ที่ราคาไม่สูงจนเกินไป น้ำหนักเบา ติดตั้งสะดวก มีแบบสำเร็จรูปให้เลือกเยอะ แต่ควรเลือกพลาสติกที่คุณภาพดี เพราะพลาสติกบางชนิดอาจมีข้อเสียที่ใบ มักจะหักหรืององ่ายหากได้รับการกระแทก
4. มูลี่โฟมวูด (Foam Wood Blinds)
วัสดุเป็นไม้สังเคราะห์ ผลิตจาก Polystyrene สีและลวดลายถูกทำให้คล้ายกับไม้จริง จุดเด่น คือ ทนต่อแสงแดดจัด ลดแสง UV ได้สูงถึง 500 เท่า สีไม่ซีด ไม่ลอก โดนน้ำไม่บิดหรืองอ ราคาถูก เหมาะสำหรับใช้ในกับพื้นที่ เช่น ห้องน้ำ และ ห้องครัว เพราะมีคุณสมบัติพิเศษ คือ กันน้ำ และกันเชื้อราได้
5. มู่ลี่ผ้า (Fabric Blinds)
ผลิตจากผ้าหลากหลายแบบ เช่น ผ้าโพลีเอสเตอร์ ผ้าฝ้าย ผ้าขนสัตว์ ผ้าไหม หรือเส้นใยวิสคอน (Viscose Rayon) ฯลฯ โดยการนำไปรีดและขึ้นเส้นใยให้เป็นซี่ระแนง มีความสวยงาม โดดเด่น หรูหราเป็นอย่างมาก แต่ทำความสะอาดยาก และมีราคาที่ค่อนข้างสูง
6. กระจกมู่ลี่ (Internal Glass Blinds)
เป็นการพัฒนานวัตกรรมมู่ลี่ในรูปแบบใหม่ ด้วยการผสมผสานกระจกกับมู่ลี่เข้าด้วยกัน คือ มีมู่ลี่อยู่ตรงกลาง ประกบด้วยกระจกทั้ง 2 ด้าน ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ในเรื่องการป้องกันฝุ่น คราบสกปรกต่าง ๆ ช่วยให้ทำความสะอาดง่าย ให้ความสวยงามแบบพรีเมียม แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้งานพอสมควร เพราะกระจกอาจถูกกระแทกจนแตกได้
ระบบของมู่ลี่ มีกี่แบบ?
- ระบบแกนปรับ เป็นรุ่นมาตรฐานที่ได้รับความนิยม ตัวแกนปรับผลิตจากอะคริลิก สามารถปรับองศาของใบมู่ลี่ด้วยการใช้มือปรับหมุนแกนไปมา
- ระบบเชือกปรับ ส่วนใหญ่แล้วจะควบคุมด้วยเชือก 2 เส้น สำหรับดึงขึ้น-ดึงลงเพื่อปรับองศาของใบ
- ระบบโซ่ดึง ใช้งานคล้ายคลึงกับแบบเชือก แต่ใช้โซ่เพียงเส้นเดียวในการควบคุม ทั้งการปรับองศา และการเก็บ-ปล่อยของใบมู่ลี่
- ระบบมอเตอร์ มีตัวมอเตอร์ควบคุมติดอยู่บนกล่องราง มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยระบบตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อมีเหตุการณ์ไฟฟ้าตกหรือดับ สามารถสั่งงานด้วยการกดปุ่มหรือใช้รีโมทคอนโทรล ถือเป็นรุ่นมีความสมัย เพิ่มความสะดวกสบายได้ดี
ขอบคุณข้อมูลจาก : Condonewb
เลือก มูลี่ ยังไงให้ตอบโจทย์?
- เลือกวัสดุให้เหมาะ
การเลือกวัสดุของมูลี่ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการพิจารณาการติดตั้ง เพราะแต่ละห้อง แต่ละพื้นที่ภายในบ้านจะมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน สำหรับห้องที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าว เช่น ห้องที่ไม่ได้ติดแอร์ หรือห้องครัวที่มีความร้อนสะสมจากการประกอบอาหารต่าง ๆ ควรเลือกมู่ลี่ที่ทำจากอะลูมิเนียม หรือไวนิล เพราะทนความร้อนและความชื้นได้ดี ไม่มีปัญหาเรื่องเชื้อรา ถ้าเป็นห้องนอนหรือห้องรับแขก เราอาจเลือกแบบใดก็ได้ตามที่ชอบ หรือลวดลายสีสันตามความต้องการ เช่น มูลี่ไม้ หรือมูลี่พลาสติก เพราะมีการออกแบบที่หลากหลาย มีสีสันให้เลือกเยอะ ช่วยในการตกแต่งภายในได้ดี นอกจากนั้น เรายังต้องพิจารณาทิศของห้องประกอบกันด้วย ว่ามีแสงส่องเข้ามามากหรือน้อย ถ้าแสงส่องเข้ามามาก อาจเลือกมู่ลี่ที่เป็นสีทึบ เพื่อช่วยลดแสงที่ส่องเข้ามามากเกินไป แต่ถ้าเป็นห้องที่มีแสงส่องเข้าน้อย หรือพื้นที่ด้านในดูคับแคบอาจเลือกมู่ลี่ที่มีความโปร่ง ดูไม่อึดอัด เป็นต้น
- เลือกขนาดให้พอดี
เมื่อได้ประเภทของมู่ลี่ที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกขนาดให้เหมาะกับมู่ลี่ เราควรวัดขนาดหน้าต่างว่ามีความกว้างและความยาวเท่าไหร่ แล้วเลือกมู่ลี่ให้เหมาะสม คือจะต้องมีขนาดที่สามารถคลุมบานหน้าต่างได้ทั้งหมด เพราะหากเลือกขนาดที่เล็กเกินไป แสงแดดก็จะลอดเข้ามาได้ง่าย และควรเลือกมู่ลี่ที่มีความยาวเลยขอบด้านล่างหน้าต่างเล็กน้อย เพื่อความสวยงาม บดบังสายตาได้มิดชิด
- เลือกดีไซน์ให้สวยปัง
หากอยากเพิ่มความสวยงามให้แก่พื้นที่ การเลือกลวดลายและสีของมูลี่เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะดีไซน์และการออกแบบของมู่ลี่จะช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้แก่ห้อง เพราะเป็นของตกแต่งที่สามารถปรับเปลี่ยนบรรยากาศได้อย่างชัดเจน หากอยากได้ห้องที่มีบรรยากาศผ่อนคลายอบอุ่น ควรเลือกมู่ลี่ไม้สีพื้นอ่อน ๆ ลวดลายขนาดเล็ก มองดูแล้วนุ่มนวลสบายตา แต่ถ้าอยากได้ห้องที่มีบรรยากาศที่สดใส โดยเฉพาะห้องน้ำ อาจจะเลือกมู่ลี่ที่มีลวดลายสีสันสดใส เช่น ลวดลายของสัตว์ทะเล ดอกไม้ ต้นไม้ เป็นต้น
เป็นอย่างไรบ้างกับ ประเภทของมู่ลี่ และ วิธีเลือกใช้ให้ตอบโจทย์การใช้งาน หวังว่าบทความนี้จะทำให้ทุกคนได้รู้จักมู่ลี่เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนสามารถเลือกมู่ลี่เพื่อติดตั้งในบ้านได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ควรเลือกมู่ลี่ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการผลิตที่มีคุณภาพ และอย่าลืมเช็กระบบของมูลี่ให้ดีก่อนว่า สามารถควบคุมได้ดีและมีความลื่นไหลหรือไม่
บทความที่น่าสนใจ :