กระจกกันเสียง คือ?

กระจกกันเสียง (Acoustic Glass) คือ กระจกที่มีคุณสมบัติในการป้องกันเสียงรบกวน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะนำกระจกประเภทใดมาทำ ก็จะต้องมีความหนารวมไม่น้อยกว่า 12 มม. ในกรณีที่ใช้กระจกแบบ 2 ชั้น จะต้องมีช่องว่างระหว่างกระจก 70 มม.ขึ้นไป และควรมีค่า Sound Transmission Class หรือค่า STC ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป ถ้าหากกระจกมีความหนามากกว่า 12 มม. ก็จะยิ่งมีค่า STC สูง ยิ่งค่า STC สูงมากเท่าใด ก็จะยิ่งป้องกันเสียงรบกวนได้มากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

220721-Content-รู้จักกับกระจกกันเสียง-มีกี่แบบ-การใช้งานเป็นอย่างไร02

ค่ามาตรฐาน ที่ใช้กันในระดับสากล โดยค่า STC จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าค่าที่อยู่ในระดับใด จะเหมาะสมกับการป้องกันเสียง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสอดคล้องกับประเภทพื้นที่การใช้งานแบบใดบ้าง และค่า STC นั้น สามารถแบ่งได้หลายระดับ ซึ่งแต่ละระดับ จะมีความสัมพันธ์กับลักษณะเสียงรบกวนแบบต่าง ๆ มีดังนี้

  • STC 30-39 : ลดความดังของเสียงพูดคุยปกติได้ แต่ยังเข้าใจเนื้อหาการสนทนา เหมาะกับ อาคาร ที่พักอาศัยทั่วไป
  • STC 40-49 : สามารถป้องกันเสียงพูดคุยปกติได้ จนไม่เข้าใจ หรือจับใจความเนื้อหาการสนทนาไม่ได้ เหมาะกับ ร้านค้า ร้านอาหาร และอาคารสาธารณะทั่วไป
  • STC 50-59 : ลดความดังของเสียงคนทะเลาะได้ แต่ยังจับใจความเข้าใจบทสนทนาได้ เหมาะกับ ห้องประชุม พื้นที่สำนักงาน พิพิธภัณฑ์ หรืออาคารพักอาศัยที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
  • STC 60-69 : ป้องกันเสียงรบกวนจากคนทะเลาะกัน และเสียงรถวิ่งได้เกือบ 100% เหมาะกับ ห้องโฮมเธียเตอร์ ห้องคาราโอเกะ ห้องอัดเสียงจัดรายการ หรือสนามบิน
  • STC 70-74 : ลดความดังของเสียงดนตรีที่เล่นอีกฝั่งได้ แต่ยังได้ยินอยู่บ้าง เหมาะกับ โรงภาพยนตร์  โรงละคร หรือเธียเตอร์ สำหรับจัดงานคอนเสิร์ต
  • STC 75 ขึ้นไป : ป้องกันเสียงรบกวนจากการเล่นดนตรีได้เกือบ 100% เหมาะกับ สถานบันเทิง

ส่วนประกอบของกระจกกันเสียง

ในการทำกระจกกันเสียงนั้น ประเภทกระจก ที่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบ มีอยู่ 3 ประเภท ดังนี้

  1. กระจกชั้นเดียว (Single Glazing) คือ กระจกที่มี Layer เดียวแบบเดี่ยว ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระจกใส หรือ กระจกนิรภัยเทมเปอร์ เป็นต้น
  2. กระจกลามิเนต (Laminated Glass) คือ การนำกระจก 2 แผ่นขึ้นไป มาประกบกันแบบสนิท โดยมีชั้นฟิล์ม PVB (Polyvinyl Butyral), EVA (Ethylene-vinyl acetate) หรือ SentryGlas ขั้นกลางระหว่างกระจกทั้ง 2 แผ่น ซึ่งฟิล์ม จะช่วยยึดเกาะแผ่นกระจกไม่ให้ร่วงหล่นเวลาแตก
  3. กระจกสองชั้น (Double Glazing) คือ การนำกระจก 2 แผ่น จะใช้กระจกชั้นเดียว หรือกระจกลามิเนตก็ได้ มาประกบกัน โดยเว้นช่องว่างระหว่างกระจกไว้

ประเภทของกระจกกันเสียง

เราสามารถ แบ่งประเภทของ กระจกกันเสียง ได้ 4 ประเภท ดังนี้

  • กระจกชั้นเดียว (Single Glazing) กระจกประเภทนี้ ยิ่งมีความหนามาก ยิ่งป้องกันเสียงได้ดี ส่วนใหญ่ ใช้เป็นกระจกสำหรับประกอบทำกระจกกันเสียง ไม่นิยมนำไปติดตั้งแบบเดี่ยว ๆ เนื่องจากกระจกชั้นเดียวเวลาแตกจะร่วงหล่น และมีความแหลมคนเป็นอันตราย 
  • กระจก 2 ชั้น (Double Glazing) ที่จะกันเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องมีช่องว่างตรงกลางระหว่างกระจกไม่น้อยกว่า 70 มม. หรือ 7 ซม. ถึงจะได้ค่า STC ที่สูงขึ้น
  • กระจก 2 ชั้น แบบผสมผสาน (Double Glazing Mix & Match) ลักษณะจะคล้ายกับข้อ 3 แต่จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงที่เพิ่มขึ้น โดยแผ่นกระจก จะเปลี่ยนจากกระจกชั้นเดียว เป็นกระจกลามิเนตแทน ในส่วนที่เป็นผนังด้านใน หรือด้านที่ใกล้ชิดกับผู้ใช้งาน เพราะเวลากระจกแตก จะให้ความปลอดภัย โดยไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน จึงกลายเป็นกระจกกันเสียงอีกประเภทหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมในการนำไปใช้งาน แต่ค่อนข้างราคาสูงเลยทีเดียว

ข้อดี-ข้อเสีย ของกระจกกันเสียง

ข้อดี

  • มีความแข็งแรง ทนต่อการบุกรุก หรือโจรกรรม มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
  • สามารถทำความสะอาดได้ง่าย 
  • ช่วยลดรังสียูวี และป้องกันเสียงรบกวน จากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อเสีย

  • มีน้ำหนักค่อนข้างมาก เพราะหนากว่ากระจกทั่วไป
  • ขนาดของกรอบเฟรม มีขนาดที่กว้างขึ้นกว่ากระจกทั่วไป

เป็นอย่างไรกันบ้าง กระจกกันเสียง ที่เรานำมาฝากกัน คงทำให้หลาย ๆ คนได้รู้จักกับ กระจกประเภทนี้ให้มากขึ้น และสามารถนำไปใช้งาน ให้เหมาะสมกับสถานที่ และความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพกันด้วย ????

● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● 

KACHA ผู้จัดจำหน่าย เครื่องมือช่างราคาถูก และอุปกรณ์เสริม สำหรับช่างมืออาชีพ ราคาที่คุณจับต้องได้ รับรองสินค้าคุณภาพ บริการหลังการขายที่ประทับใจอย่างแน่นอน!!

เลือกดูสินค้าจาก KACHA คลิกเลย ????????

อ้างอิงข้อมูลจาก wazzadu.com