สิ่งที่ระบบครัวเรือนต้องมี นั่นคือ มิเตอร์น้ำ (Water Meter) หรือ มาตรวัดน้ำ เป็นอุปกรณ์ที่ทุกบ้านพักอาศัย อาคารต่าง ๆ หรือแม้แต่คอนโดมิเนียมต้องมี บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามิเตอร์น้ำนั้น มีความสำคัญอย่างไร รู้กันเพียงว่า หากมีการขอใช้น้ำประปาก็ต้องมีมิเตอร์น้ำเป็นตัววัด ที่จะบอกว่าค่าใช้น้ำของเราแต่ละเดือนนั้นเป็นเงินเท่าไหร่ จริง ๆ แล้วมิเตอร์น้ำก็เป็นเครื่องมือวัดปริมาตรการใช้น้ำในแต่ละบ้าน โดยน้ำจะไหลผ่านตัวมิเตอร์ และมิเตอร์จะคำนวณปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแล้วบอกค่าต่าง ๆ ไว้ที่หน้าปัดโดยจะแสดงปริมาตรเป็นลิตร เป็นลูกบาศก์เมตร เป็นต้น
บทความนี้ KACHA จะพาไปดูกันว่า มิเตอร์น้ำ มาตรวัดน้ำ ????สำคัญอย่างไร ทำไมทุกบ้านต้องมี
มิเตอร์น้ำ คืออะไร?
มิเตอร์น้ำที่เราเรียกการติดปาก คือ มาตรวัดน้ำ ที่เป็นตัวช่วยคำนวณปริมาณการใช้น้ำ โดยจะมีอุปกรณ์ภายในที่ทำหน้าที่คำนวณปริมาตรน้ำ ในรูปแบบที่แตกต่างกันตามแต่ชนิด หลัก ๆ คือ เมื่อน้ำไหลผ่านมิเตอร์ อุปกรณ์การวัดภายในจะหมุน แล้วคำนวณตามปริมาตรของน้ำที่ไหลผ่านไป อุปกรณ์การวัดจะเชื่อมต่อกับแกนหมุนตัวเลข หรือส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังชุดแสดงผล เพื่อแสดงค่าของปริมาณน้ำที่หน้าปัด ที่เราสามารถมองเห็นได้ การแสดงผลของมิเตอร์น้ำ
ในปัจจุบัน จะมีทั้งแบบที่เป็นกลไกแบบ Analog ดั้งเดิม มีทั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ และมีทั้งระบบส่งข้อมูลออกไปเป็นสัญญาณดิจิตอล กลไกของมิเตอร์น้ำ มีรูปแบบที่แตกต่างกันหลายรูปแบบ เช่น มิเตอร์น้ำแบบ Single jet, มิเตอร์น้ำแบบ Multi jet, มิเตอร์น้ำแบบ Piston และมิเตอร์น้ำแบบที่ใช้การเหนี่ยวนำของแม่เหล็กไฟฟ้า การที่จะบอกได้ว่ามิเตอร์น้ำยี่ห้อไหนดีนั้น ยังรวมไปถึงวัสดุที่ใช้ผลิต ฟังก์ชั่นความเสถียร และความแม่นยำในการคำนวนค่าน้ำที่ต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน
ประเภทของมิเตอร์น้ำ
ก่อนที่จะรู้ว่ามิเตอร์น้ำยี่ห้อไหนดี เราไปศึกษาข้อมูลกันก่อนดีกว่าว่า นอกจากที่มิเตอร์น้ำที่เราเห็นใช้งานตามบ้านพักอาศัยทั่วไปแล้ว ยังมีอีกกี่ประเภท ที่เป็นที่นิยม และมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน แบ่งออกได้ ดังนี้
1. มิเตอร์น้ำแบบ Displacement Water Meterเป็นมิเตอร์ที่ใช้การวัดปริมาณน้ำในพื้นที่หนึ่ง ในชั่วขณะหนึ่ง โดยจะมีชุดการคำนวณเป็นแบบลูกสูบ Piston ที่ควบคุมการทำงานของแม่เหล็ก ซึ่งจะส่งผลคำนวณปริมาณที่ได้ไปแสดงค่าปริมาตรของน้ำบนหน้าปัด |
2. มิเตอร์น้ำแบบ Positive Displacement Meterเป็นมิเตอร์ที่นิยมใช้ตามอาคารก่อสร้าง ที่พักอาศัย หรือธุรกิจขนาดเล็ก สามารถวัดได้อย่างแม่นยำ เที่ยงตรง ถึงแม้จะมีปริมาณน้ำที่ใช้วัดน้อยมากก็ตาม มีให้เลือกขนาดใช้งานที่เหมาะกับอัตราการไหลในช่วงต่าง ๆ มากมายหลายขนาด โดยมีขนาดตั้งแต่ 5/8 นิ้วขึ้นไป |
3. มิเตอร์น้ำแบบ Velocity Meterเป็นมิเตอร์ที่ใช้วัดความเร็วของน้ำ ที่เคลื่อนที่ผ่านอุปกรณ์ที่ใช้คำนวณ ที่อยู่ภายในตัวมิเตอร์ โดยอาศัยความเร็วของน้ำ (Velocity) และจะแปลงค่าเป็นหน่วยที่ใช้วัดปริมาตรน้ำแสดงบนหน้าปัด มีประเภทย่อยลงไปอีก ทั้งแบบใบพัดเดี่ยว, แบบ 2 ใบพัด, แบบหลายใบพัด, แบบอัลตร้าโซนิค ฯลฯ |
4. มิเตอร์น้ำแบบ Inferential Meterเป็นมิเตอร์ที่ใช้อัตราการไหลแบบทางอ้อมของปริมาณน้ำ โดยใช้การคำนวณปริมาตรจากภาชนะ ที่ถูกลำเลียงผ่านกังหัน เช่น Turbine meters, Woltman meters, Impeller meters, Propeller-type flow meters |
5. มิเตอร์น้ำแบบ Oscillatory Flow Meterเป็นมิเตอร์ที่ใช้อัตราการไหลของปริมาณน้ำ ผ่านการแกว่งของตัวชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายใน ซึ่งเกิดจากการไหลผ่านของน้ำ ที่ทำให้เกิดการแกว่งตัว และเอาสัญญาณที่เกิดจากการแกว่งตัวเหล่านี้ไปแสดงผล |
6. มิเตอร์น้ำแบบ Electromagnetic Flow Meter หรือ Magflows/Magmetersเป็นมิเตอร์อีกแบบ ที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน โดยจะอาศัยหลักการทำงานตามกฎของฟาราเดย์ Faraday’s law ซึ่งเมื่อมีตัวนำ หรือปริมาณน้ำวิ่งผ่าน หรือตัดผ่านสนามแม่เหล็ก ไปทำให้เกิดแรงดันตกคร่อม ซึ่งจะแปรเปลี่ยนไปตามความเร็วจากการไหลของน้ำ |
7. มิเตอร์น้ำแบบ Ultrasonic flow meterมิเตอร์แบบนี้ จะเป็นชิ้นอุปกรณ์ 2 ชิ้น ที่มีการยึดติดกับท่อด้านใน และจะปล่อยคลื่นผ่านท่อให้กระทบน้ำ เพื่อนำสัญญาณที่ส่งจาก Transducer ผ่านท่อจากด้านหนึ่ง ไปยังอีกด้านหนึ่ง มาคำนวณความเร็ว และปริมาณของน้ำ มิเตอร์แบบนี้ นิยมใช้กับการวัดปริมาณน้ำในปริมาณมาก |
คำนวณค่าน้ำ จากการอ่านค่าตัวเลขมิเตอร์น้ำ ราคาค่าใช้น้ำ
หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาหน้าปัดของมิเตอร์น้ำเป็นอย่างดี เพราะเห็นกันบ่อย ๆ แต่ตัวเลขบนหน้าปัดบอกอะไรบ้าง เชื่อว่ายังมีหลายคนที่ไม่รู้ ลองฝึกการอ่านค่ามิเตอร์น้ำ ราคาค่าใช้น้ำในแต่ละเดือน เพื่อจะได้คำนวณค่าการใช้น้ำของเราเองได้อย่างถูกต้อง ดังนี้
- หน้าปัดบนมิเตอร์น้ำ หรือ มาตรวัดน้ำ มีด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบแสดงตัวเลข 4 หลัก และแบบแสดงตัวเลข 7 หลัก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และแบรนด์ต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกัน
- หน่วยวัดปริมาตรน้ำบนหน้าปัดมิเตอร์ จะแสดงผลเป็นลูกบาศก์เมตร โดย 1 ลูกบาศก์เมตร จะเท่ากับ 1,000 ลิตร
- วิธีคำนวณค่าน้ำ มิเตอร์น้ำแบบ 4 หลัก โดยตัวเลขหลัก 4 ตัว จะเป็นจำนวนเต็มหน่วยลูกบาศก์เมตร หรือคิว ส่วนตัวเลขที่แสดงบนวงกลม 3 วง จะเป็นตัวเลขทศนิยม 3 ตำแหน่งของลูกบาศก์เมตร มีหน่วยนับเป็นลิตร
- วิธีคำนวณค่าน้ำ มิเตอร์น้ำแบบ 7 หลัก โดยตัวเลขสีดำ 4 ตัว จะเป็นจำนวนเต็มมีหน่วยลูกบาศก์เมตร หรือคิว ส่วนตัวเลขสีแดง 3 หลัก จะเป็นตัวเลขทศนิยม 3 ตำแหน่งของลูกบาศก์เมตร มีหน่วยนับเป็นลิตร ซึ่งตัวเลขสีแดงของมิเตอร์น้ำแบบนี้ คือ ตัวเลขเดียวกับตัวเลขในวงกลมของมิเตอร์น้ำแบบ 4 หลักนั่นเอง
- การคำนวณค่าน้ำในแต่ละเดือน ให้นำตัวเลขบนมิเตอร์น้ำที่อ่านค่าได้ตอนสิ้นเดือน หรือตอนที่มีเจ้าหน้าที่การประปามาเปิดมิเตอร์ ลบกับตัวเลขมิเตอร์เดือนที่ผ่านมา ผลจะออกมาเป็นจำนวนหน่วยของน้ำที่ได้ใช้ไป แล้วนำมาคูณกับอัตราค่าน้ำต่อหน่วย เช่น เดือนตุลาคมใช้น้ำไป 5 ลูกบาศก์เมตร เดือนพฤศจิกายนใช้น้ำไป 15 ลูกบาศก์เมตร เท่ากับ 15 ลบ 5 ผลที่ได้ออกมาคือ เดือนล่าสุดใช้น้ำไป 10 ลูกบาศก์เมตร
- นำค่าการใช้น้ำในเดือนที่คำนวณได้ คือ 10 ลูกบาศก์เมตร มาคูณกับค่าน้ำประปา สมมุติว่าหน่วยละ 10 บาท ก็เท่ากับ 10 x 10 นั่นก็เท่ากับว่า เราใช้น้ำประปาไปจากการคำนวณมิเตอร์น้ำ ราคา 100 บาท
การตรวจสอบดูแล มิเตอร์น้ำด้วยตัวเอง
มิเตอร์น้ำแต่ละบ้านนั้น ติดตั้งไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นบ้านพักอาศัย จะติดตั้งอยู่นอกบ้าน หรือติดกับรั้วด้านในของบ้าน เพื่อสะดวกในการให้เจ้าหน้าที่การประปา ในการอ่านค่าการใช้น้ำในแต่ละเดือนได้ง่าย แต่การที่ติดตั้งอยู่ด้านนออก ทำให้มิเตอร์น้ำนั้น ต้องโดนทั้งแดดทั้งฝน และแต่ละยี่ห้อก็ผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกัน มิเตอร์น้ำยี่ห้อไหนดี-ไม่ดีนั้น จะส่งผลต่อคุณภาพ และมาตรฐานที่ต่างกันด้วย วิธีตรวจสอบมิเตอร์น้ำอย่างไร ว่ายังใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- วาล์วเปิด-ปิดน้ำ ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ทดสอบได้โดยการหมุนเข้าหมุนออกได้ปกติ
- ฝาปิดพับบนหน้าปัด ต้องไม่หักชำรุด
- สภาพของมิเตอร์น้ำ ไม่เป็นสนิม หรือมีคราบตะไคร่ คราบตะกรัน เกรอะกรัง
- เลขบนหน้าปัดมิเตอร์น้ำ มองเห็นได้ชัด หน้าปัดไม่ขุ่นเป็นฝ้า หรือมัว
- ไม่มีน้ำหยดออกมาตามข้อต่อต่าง ๆ หากพบการรั่วซึม ต้องรีบดำเนินการแก้ไขโดยทันที เพราะหากปล่อยนานไป ราคาค่าน้ำก็จะพุ่งสูงขึ้น
เป็นอย่างไรกันบ้างมิเตอร์น้ำ (Water Meter) หรือมาตรวัดน้ำ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่หลายคนมองข้ามไป มิเตอร์น้ำยี่ห้อไหนดีขึ้นอยู่กับคุณภาพ มาตรฐาน และอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่หากเกิดมีปัญหามิเตอร์น้ำ โดยที่เราไม่รู้ตัว เช่น น้ำรั่วซึม หรืออุปกรณ์เสื่อมชำรุดขึ้นมา ก็จะเกิดผลกระทบอย่างมากมาย เพราะจะทำให้เราต้องเสียค่าน้ำแพงโดยใช่เหตุ ดังนั้น การหมั่นตรวจสอบ ดูแล และบำรุงรักษามิเตอร์น้ำให้อยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งาน ก็จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายลงไปได้มากทีเดียว