❝ เมื่อพูดถึงเทรนด์ของการตกแต่งบ้าน ร้านค้า ออฟฟิศ ในปัจจุบันนั้นมีแนวคิดรักษ์ธรรมชาติอย่างแพร่หลาย และ “แผ่นโปร่งแสง” หรือ หลังคาโปร่งแสง ถือเป็นหนึ่งในวัสดุตกแต่งต่อเติมที่ช่วยเติมเต็มความเป็นธรรมชาติให้กับบ้าน อาคาร สถานที่ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ใครที่อยากแต่งบ้าน แต่งร้านให้โดดเด่นสวยงามในสไตล์ธรรมชาติต้องเลือกใช้แผ่นโปร่งแสง ❞
ปัจจุบันกระแสความนิยมในการ รักษ์โลก รักษ์ธรรมชาตินั้น ถือว่าทวีความฮิตขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเพราะตระหนักได้ถึงวิกฤติการณ์ทางธรรมชาติที่ส่งผลเสียต่อทุกชีวิตบนโลก และทั้งตระหนักได้ถึงประโยชน์ของการใช้ชีวิตแบบอิงกับธรรมชาติมากขึ้น
วันนี้ KACHA จะพาไปดูกันว่า ข้อดีของแผ่นโปร่งแสงนั้นจะมีอะไรบ้าง
แผ่นโปร่งแสง ดีอย่างไร?
ใครหลายคนที่ยังมีข้อสงสัยว่า ทำไมเป็นแผ่นโปร่งแสง จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม เรามีเหตุผลข้อดีต่างๆ ของแผ่นโปร่งแสง ดังต่อไปนี้
|
|
|
|
|
▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾ ▾
ใช้แผ่นโปร่งแสงต่อเติมหลังคา ดีกว่าหลังคาทึบแสงอย่างไร?
- ยอมให้แสงผ่านได้ดี จึงมีส่วนช่วยในการประหยัดไฟ
ความแตกต่างที่โดดเด่นกว่าอย่างชัดเจนที่แผ่นโปร่งแสงมีเหนือกว่าหลังคาทึบแสง คือ คุณสมบัติในการยอมให้แสงผ่าน ทำให้บริเวณที่เราต่อเติมนั้นจะได้รับแสงจากธรรมชาติส่องผ่านลงมา ทำให้เวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ ในเวลากลางวันไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแสงสว่างจากหลอดไฟ ส่งผลให้สามารถประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น ต่างจากหลังคาทึบแสง ที่ทำให้บริเวณที่ต่อเติมไม่สามารถมีแสงส่องผ่านได้ จึงมีความทึบมืด และต้องอาศัยการใช้ไฟฟ้าช่วยในการส่องสว่างเพื่อการมองเห็น - แผ่นโปร่งแสงไม่ได้ทำให้ร้อน
เนื่องจากคุณสมบัติในการยอมให้แสงแดดส่องผ่านเพื่อความสว่าง จึงทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกว่าจะทำให้บริเวณที่ต่อเติมนั้นร้อน อบอ้าวด้วยอุณหภูมิของแสงแดดที่ส่องผ่าน แต่ในความเป็นจริง แผ่นโปร่งแสงที่มีคุณภาพ จะมีคุณสมบัติได้การป้องกันความร้อนอยู่ด้วย -
แผ่นโปร่งแสงใช้ในการตกแต่งได้สวยงามมากกว่า
ด้วยเพราะยอมให้แสงส่องผ่าน แผ่นโปร่งแสงจึงเป็นตัวเลือกในการต่อเติมส่วนต่าง ๆ ของบ้านที่ตอบโจทย์ในเรื่องของความสวยงามได้มากกว่า เพราะมีโอกาสดีไซน์การตกแต่งโดยใช้แสงเงาได้มากกว่า ทำให้ภาพรวมของบ้านออกมาสวยงาม มีกลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการตกแต่งบ้าน หรืออาคารต่าง ๆ ภายใต้แนวคิดรักษ์โลก และการประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี แตกต่างจากการใช้หลังคาทึบแสง ที่แม้จะมีสีสันให้เลือกหลากหลาย แต่มิติของการตกแต่งก็จะดูแข็ง และไม่อ่อนโยนนุ่มนวล มีความเป็นธรรมชาติเท่ากับการใช้แผ่นโปร่งแสง -
เลือกระดับของความโปร่งแสงได้ ตามความต้องการ
ความต้องการแสงสว่าง เพื่อการประหยัดไฟเป็นเรื่องดี แต่บางทีหลาย ๆ คนก็กังวลเหมือนว่า จะสว่างเกินไปหรือเปล่า ซึ่งพอสว่างมากไปจะรู้สึกว่าจะร้อนไปหรือเปล่า ปัญหานี้สามารถหมดไปได้ เพราะแผ่นโปร่งแสงไม่เพียงมีคุณสมบัติกันความร้อน สะท้อนรังสียูวี เท่านั้น แต่ยังสามารถเลือกระดับความโปร่งแสงได้ตามความต้องการอีกด้วย เช่น สีขาวขุ่น ยอมให้ปริมาณแสงผ่านได้ 36%, สีชา ยอมให้ปริมาณแสงผ่านได้ 6%, สีเขียวอันดามัน ยอมให้แสงผ่านได้ 43% เป็นต้น ทำให้เราเลือกได้เลือกว่า อยากให้แสงผ่านมากน้อยแค่ไหน และอยากให้บริเวณส่วนที่เราต่อเติมนั้น มีความสวยงาม โดดเด่นมากแค่ไหนนั่นเอง -
แข็งแรง ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ
การที่แผ่นโปร่งแสงยอมให้แสงผ่านได้ อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกว่า เพราะบางหรือเปล่า? แบบนี้จะไม่แข็งแรง จะเสื่อมสภาพเร็ว อายุการใช้งานไม่คุ้มค่าหรือเปล่า? คำตอบก็ตรงกันข้าม เพราะแผ่นโปร่งแสงนั้น มีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะแดด ฝน ร้อน หนาว จึงทำให้มีความคุ้มค่า และใช้งานได้ยาวนานไม่แพ้หลังคาทึบแสงเลย
อย่างไรก็ตามใช่ว่าหลังคาแบบทึบแสงนั้นจะไม่มีข้อดี เพียงแต่แผ่นโปร่งแสงนั้น มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แปลกใหม่ และเป็นประโยชน์ได้ในมุมที่หลังคาทีบแสงทำไม่ได้ จึงทำให้ปัจจุบันได้รับความนิยมติดตั้งกันมากขึ้น????
คุณสมบัติของหลังคาโปร่งแสง
คุณสมบัติในด้านต่าง ๆ และราคาของหลังคาโปร่งแสง 5 ประเภท เพื่อเป็นแนวทางสำหรับเจ้าของบ้านพิจารณาเลือกใช้ มีดังนี้
-
แผ่นโปร่งแสงอะคริลิก
มีพื้นผิวเรียบ ใส เงา เหมาะกับบ้านหลายสไตล์ โดยเฉพาะสไตล์โมเดิร์น คุณสมบัติเด่น คือ มีความใสเทียบเท่ากระจกแต่น้ำหนักเบากว่ามาก เนื้อเหนียว ดัดโค้งได้ ไม่กรอบหรือแตกลายงา ไม่เป็นฝ้า มีทั้งรุ่นธรรมดาที่กรองแสงแดดได้ระดับหนึ่ง กับรุ่นที่กรองแสง และป้องกันความร้อนได้มากขึ้น สำหรับงานหลังคา หรือกันสาดจะใช้ที่ความหนา 6 มม. ซึ่งสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 90 กิโลกรัมต่อตารางเมตรเลยทีเดียว
สำหรับราคาของแผ่นหลังคาอะคริลิกพร้อมโครงสร้างรวมค่าแรงติดตั้งจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 – 6,500 บาท/ตร.ม.
-
แผ่นโปร่งแสงไฟเบอร์กลาส
เป็นหลังคาโปร่งแสงที่ผลิตจากใยแก้ว และโพลีเอสเตอร์ (Polyester) ชนิดพิเศษ มีความยืดหยุ่น แข็งแรง ดัดโค้งได้แสงที่ส่องผ่านจะดูนุ่มสบายตา ติดตั้งง่าย และมีการขยายตัวต่ำ ข้อเสียคือ เมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจจะทำให้สีซีดจาง จนมองเห็นเส้นใยในแผ่นได้อย่างชัดเจน
สำหรับราคาของแผ่นโปร่งแสงไฟเบอร์กลาสพร้อมโครงสร้างรวมค่าแรงติดตั้งจะเฉลี่ยตารางเมตรละ 3,200-3,500 บาท แต่หากเป็นราคาของแผ่นหลังคาอย่างเดียวจะอยู่ที่ประมาณ 575-750 บาทต่อตารางเมตร
-
แผ่นโปร่งแสงกระจกลามิเนต
การทำหลังคากันสาดแบบกระจกใสควรเลือกใช้กระจกลามิเนต ซึ่งประกอบด้วยกระจก 2 แผ่นประกบกันแบบแซนวิส โดยมีฟิล์มกัน UV อยู่ตรงกลาง หากเกิดการกระแทกจนกระจกแตก กระจกจะเกาะกับชั้นฟิล์ม ไม่ร่วงหล่นลงมาทำอันตราย ประเภทของกระจกที่นำมาประกบกันเป็นกระจกสามารถเลือกได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน แต่โดยส่วนใหญ่เลือกใช้กระจกเทมเปอร์ ซึ่งเมื่อแตกจะมีลักษณะเหมือนเม็ดข้าวโพดไม่แหลมคม และความหนาของกระจกแต่ละชั้นมักจะใช้ที่ความหนา 4 หรือ 5 มม.
สำหรับราคาค่ากระจกเทมเปอร์ลามิเนต (4+4, 5+5 มม.) พร้อมอุปกรณ์ประกอบ รวมค่าติดตั้ง (ไม่รวมโครงสร้างรองรับ) จะอยู่ประมาณ 4,300-4,600 บาทต่อตารางเมตร (ราคาอาจสูง หรือต่ำกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทกระจกที่เลือกใช้)
-
แผ่นโปร่งแสงโพลีคาร์บอเนต
เป็นพลาสติกเช่นเดียวกับไวนิล แตกคุณสมบัติแตกต่างคือ มีความโปร่งใส เหนียว แข็ง ยึดเกาะได้ดี คงรูปได้ง่าย นิยมใช้ทำผลิตภัณฑ์แทนแก้วหรือกระจก มีน้ำหนักเบา ทนทานสูง ทนต่อทุกสภาพอากาศ ตัดโค้งได้ หลังคาโพลีคาร์บอเนต เมื่อเคลือบผิวด้วยสารดูดซับแสง UV สามารถกันความร้อนได้เกือบ 100% ข้อเสียคือ การเกิดไอน้ำ ตะไคร่น้ำ และความขุ่นมัว ถึงไม่เหมาะสำหรับนำไปทำเป็นหลังคาบ้าน หลังคาโพลีคาร์บอเนตมีความทนทานต่อการขูดขีดต่ำ ไม่ทนต่อสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรด-ด่าง การใช้งานเสื่อมสภาพไว ไม่ทนต่อความร้อนสูง และมีราคาค่อนข้างสูงกว่าหลังคาชนิดอื่น
ราคาจะขึ้นอยู่กับประเภท และความหนาของแผ่น รวมถึงลักษณะโครงสร้างที่รองรับ จึงมีช่วงราคาค่อนข้างกว้าง โดยราคาแผ่นหลังคารวมโครงสร้าง พร้อมค่าแรงติดตั้งจะอยู่ที่ 2,000-4,000 บาทต่อตารางเมตร
-
แผ่นโปร่งแสง uPVC (Unplasticized Polyvinyl Chloride)
เป็นวัสดุหลังคาที่มีลักษณะเป็นแผ่นลอน รูปลอนใกล้เคียงกับลอนเมทัลชีท สำหรับแผ่นโปร่งแสงจะมีสีขาวขุ่นสีเดียว แสงผ่านได้ น้ำหนักเบา เมื่อฝนตกเสียงไม่ดังรบกวนมากนัก เนื้อวัสดุแข็งแรง เหนียว ดัดโค้งได้ แต่เมื่อใช้ไปนานๆ สีของวัสดุอาจเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ และตัวแผ่นอาจแอ่นตัวตกท้องช้างได้เนื่องจากความร้อน ขึ้นอยู่กับคุณภาพและความหนาของแต่ละยี่ห้อ
ราคาโดยเฉลี่ยไม่รวมค่าติดตั้งอยู่ที่ประมาณ 350-480 บาทต่อตารางเมตร หากรวมค่าโครงหลังคาและค่าติดตั้งจะอยู่ที่ประมาณ 2,500-3,000 บาทต่อตารางเมตร
จะเห็นได้ว่า ด้วยคุณสมบัติต่าง ๆ ของแผ่นโปร่งแสง ทำให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ไม่ได้ด้อยไปกว่าหลังคาทึบแสงเลย แถมยังมีข้อดีที่แตกต่างกว่าในเรื่องของ ความสวยงามในการตกแต่ง และการยอมให้แสงผ่านซึ่งช่วยประหยัดไฟได้นั่นเอง จึงเป็นที่มาของความนิยมใช้แผ่นโปร่งแสงตกแต่งต่อเติมหลังคา ส่วนใช้สอยต่าง ๆ ในบริเวณบ้านในปัจจุบัน ดังนั้นควรพิจารณาว่าจะใช้แผ่นโปร่งแสง ต้องขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ และพื้นที่การใช้งานเป็นหลังด้วย ที่หากไม่มีความจำเป็นต้องการคุณสมบัติของการยอมให้แสงผ่าน เพื่อความทึบ ความเป็นส่วนตัว หลังคาแบบทึบแสงก็ตอบโจทย์มากกว่านั่นเอง ???? >>สามารถติดตามบทความต่าง ๆ ของ KACHA ได้ตามนี้เลย<<