มารู้จัก ชนิดของดิน มีกี่แบบ เลือกแบบไหนให้เหมาะกับถมดินสร้างบ้าน
ดินเป็นทรัพยากรธรรมชาติ ที่สามารถจำแนกได้เป็นดินประเภทต่าง ๆ ซึ่งแต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งให้ประโยชน์ และข้อจำกัดในการปลูก และการนำไปใช้งานในการก่อสร้างต่าง ๆ บทความนี้ KACHA จะพาไปรู้จัก ชนิดของดิน และดินชนิดไหนใช้ทำอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ดิน เป็นวัสดุ ที่ประกอบด้วยส่วนผสม 5 อย่าง คือ แร่ธาตุ อินทรียวัตถุในดิน สิ่งมีชีวิต ก๊าซ และน้ำ แร่ธาตุในดิน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ดินเหนียว ดินตะกอน และดินทราย ดินมีหน้าที่สำคัญ 4 ประการ คือ
- เป็นสื่อกลางในการเจริญเติบโตของพืช
- เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต
- แหล่งที่เก็บกักน้ำ หรือความชื้นในดิน
- เป็นตัวดัดแปลงชั้นบรรยากาศของโลก
ชนิดของดิน มีกี่ประเภท?
-
ดินทั่วไป
เป็นดินชิ้นสองหรือชิ้นสาม มีราคาถูก ได้รับความนิยมนำมาใช้ การถมดิน และในการสร้างบ้าน ช่วยประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย โดยดินประเภทนี้ จะมีความแน่น และมีสีจาง ไม่เหมาะสำหรับนำมาปลูกต้นไม้ แต่หากดิน มีความเหนียว สามารถนำมาปลูกต้นไม้ได้บางชนิด
-
ดินดาน
เป็นดินที่ใช้สำหรับถมที่ และปลูกสร้าบ้านได้ทันที เพราะเป็นดินแห้ง บดอัดได้ดี จะมีสีออกสีเหลือง เนื่องจากอินทรีย์น้อย มีส่วนผสมของแร่ และหินมาก โดยส่วนใหญ่แล้ว จะมีการนำมาถมที่ เพราะมีความแข็งแรง แน่น เหมาะสำหรับใช้ทำถนน หรือที่ดินริมน้ำ
-
ดินลูกรัง
เป็นดินที่สามารถบดอัดได้ดี มีความแน่น เหมาะสำหรับใช้ทำถนน ไม่เหมาะในการใช้ปลูกต้นไม้ บางพื้นที่การใช้งาน สามารถแบ่งตามประโยชน์ใช้สอยได้
-
ดินทราย
ชนิดของดินทราย จะมีประมาณทรายร้อยละ 70 ขึ้นไป ไม่อุ้มน้ำ ง่ายต่อการกัดกร่อน หากมีการนำมาใช้ จะต้องบดอัดอย่างดี เพื่อป้องกันดินไหล และทรุดตัว ที่สำคัญ ดินทรายมีราคาถูก เหมาะสำหรับการถมดินโครงการบ้านจัดสรร
-
หน้าดิน
เป็นดินที่ร่วนพรุน เนื้อดินมีความละเอียดนุ่ม เมื่อแห้ง จะมีการแข็งตัวพอประมาณ เป็นดินที่สามารถระบายน้ำได้เป็นอย่างดี มีลักษณะสีดำคล้ำ สามารถปลูกต้นไม้ได้ดี อมความชื้น และเหมาะสำหรับต้นไม้สูง
ก่อนถมดินสร้างบ้าน ต้องรู้อะไรบ้าง?
การปรับหน้าดินให้พร้อมก่อนก่อสร้าง ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ การถมดิน เป็นวิธีที่ใช้ปรับหน้าดินได้ดี การถมดินนั้น จะถมให้สูงเท่าไหร่ก็ถมได้เลย และต้องดูอีกหลายปัจจัยควบคู่กันไป เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในระยะยาวภายหลัง เช่น การทรุดตัวของดิน หรือการระบายน้ำภายในพื่นที่ เป็นต้น ดังนั้น การถมดินเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับก่อสร้าง มีปัจจัยหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง และควรตำนึงถึงก่อการถมดิน ดังนี้
-
ลักษณะพื้นที่ที่จะถมดิน
ผู้รับเหมาควรตรวจสอบลักษณะของพื้นที่ดังกล่าวก่อน เพื่อให้รู้ว่า จะต้องมีการถมดินสูงแค่ไหน ควรสอบถามผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ว่ามีปัญหาเรื่องน้ำท่วมหรือไม่ ใช้เวลาระบายน้ำนานแค่ไหน เพราะปัญหาดังกล่าว จะส่งผลให้ดินเกิดการอ่อนตัวง่าย จะต้องถมแล้วอัดให้แน่นกว่าปกติ ใช้เวลานานขึ้น
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสังเกตพื้นที่เพื่อการถมดินได้ คือ การสังเกตต้นไม้ที่ขึ้นบนดินแปลงนั้น หากมีต้นกก ต้นอ้อ หรือธูปฤๅษี แสดงว่าพื้นที่บริเวณนั้นมีความชื้นแฉะสูง ดินตรงนั้นจะมีความอ่อนตัว แต่ถ้าหากมีต้นกระถิน หรือมะขามเทศ แสดงว่าดินบริเวณนั้นมีความแห้ง
-
ระดับความสูงของพื้นที่ที่จะถมดิน
เรื่องระดับความสูงของพื้นที่ที่ต้องการถม ต้องประเมินสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ปกติน้ำท่วมถึงระดับไหน พื้นถนนเทียบกับพื้นที่ของตนเอง เทียบความสูงของที่บ้านหลังอื่น และที่ดินที่เป็นแปลงเปล่า มองเผื่ออนาคตด้วยว่าหากมีการก่อสร้างอื่น ๆ เพิ่มขึ้น พื้นที่ต่าง ๆ รอบด้าน จะต้องถูกถมให้สูงขึ้นด้วย ดังนั้น การประเมินสภาพแวดล้อมดังกล่าวจะช่วยให้รู้ได้ว่าต้องถมดินสูงแค่ไหน
ความสูงของการถมดินโดยทั่วไปแล้ว จะถมสูงกว่าถนน 50-80 ซม. แต่สำหรับบางพื้นที่หากประเมินแล้วว่าต้องเผื่อการยุบตัวไว้ ก็อาจถมดินให้สูงกว่า 1 เมตร
-
พื้นที่หลังถมดินควรทิ้งไว้นานแค่ไหน
การทิ้งระยะเวลารอดินเซ็ตตัวหลังถมดินเสร็จ หากไม่จำเป็นจริง ๆ ไม่ควรเริ่มก่อสร้างทันที ควรทิ้งระยะเวลาให้ดินเซ็ตตัวก่อน ยิ่งถมสูงยิ่งมีโอกาสทรุดตั ควรทิ้งระยะเวลาไว้ 6-12 เดือน หรือจะร่นระยะเวลาได้ โดยการใช้รถบดอัดดินช่วย หรือทำทั้ง 2 อย่าง คือ ทั้งใช้รถบดอัดดิน และทิ้งระยะเวลารอดินเซ็ตตัว ยิ่งจะทำให้การปรับหน้าดินก่อสร้างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ลักษณะดินที่เหมาะกับการใช้ถมดิน
การเลือกใช้ดินสำหรับนำมาถมที่ ควรมีการเลือกใช้ดินธรรมชาติ ไม่ควรเลือกใช้ดินที่มีการผสมเศษอิฐ หรือเศษหิน เพียงเพราะมีราคาถูก เพราะอาจส่งปัญหาต่อเสาเข็มได้ โดยดินธรรมชาติที่มักนำมาใช้ในการถมที่ ได้แก่
- ดินดาน หรือซีแล็ค เป็นดินที่มีลักษณะแห้ง นิยมมาใช้เมื่อมีความต้องการปลูกสร้างหลังถมดิน ปรับหน้าดินเสร็จทันที บดอัดได้ดี เหมาะสำหรับการใช้ถมทำพื้นที่ถนน หรือที่ดินที่อยู่บริเวณริมน้ำ
- ดินทราย เป็นดินที่จำเป็นต้องใช้การบดอัดให้แน่น เนื่องจากดินทรายจะประกอบด้วยทรายไม่น้อยกว่า 70% เกิดการกัดกร่อนได้ง่าย และไม่อุ้มน้ำ หากอัดไม่เน่น อาจเกิดปัญหาดินทรุดตัว และไหลออกบริเวณข้างเคียง ส่วนสาเหตุที่มีคนเลือกใช้ดินทรายในการถมที่ เพราะเป็นดินที่ใช้ต้นทุนต่ำ ราคาถูก
- ดินลูกรัง เป็นดินที่ค่อนข้างแข็ง ยิ่งตอนเป็นดินที่แห้งจะยิ่งแข็ง มีสีน้ำตาง หรือแดง เหมาะสำหรับใช้ถมทำถนนคอนกรีต เพราะบดให้อัดแน่นได้ดี แต่ไม่เหมาะกับการใช้ปลูกต้นไม้ เนื่องจากแห้งเกินไป
- ดินเหนียว เป็นดินที่มีเนื้อละเอียด สามารถอุ้มน้ำได้ดี หาง่าย ต้นทุนไม่สูง ดินชนิดนี้เป็นที่นิยมในการใช้ถมที่ ในบริเวณกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
รู้ไหม? ดินที่เหมาะสำหรับถมสร้างบ้านมากที่สุด คือดิมถม ดินดำ ดินชั้นสอง และดินเหนียว เป็นประเภทดินที่เหมาะสำหรับถมที่สร้างบ้าน และเพื่อให้การสร้างบ้านออกมามีคุณภาพ ควรบดอัดดินให้แน่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดินทรุดตัวภายหลัง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ ชนิดของดิน มีกี่แบบ แต่ละแบบใช้งานในด้านไหนบ้าง นอกจากจะได้รู้กันแล้วว่า ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อ การถมดิน การปรับหน้าดิน ดินลักษณะไหนที่เหมาะสมกับพื้นที่แบบต่าง ๆ เพื่อเตรียมพื้นที่ก่อนก่อสร้างนั่นเอง
บทความดี ๆ น่าอ่าน:
- “ผู้รับเหมา” เลือกอย่างไร? ไม่ให้โดนทิ้งงาน!
- รู้จักกับ สถาปนิก คืออะไร? แตกต่างกับวิศวกรอย่างไร?
- วางแผน (ก่อน) ซ่อมแซมบ้าน เรื่องง่าย ๆ ต้องรู้อะไรบ้าง?
- การรีโนเวทบ้าน กฎหมายต่อเติมบ้าน ที่ไม่ควรมองข้าม!
- สาระน่ารู้เกี่ยวกับ “การสร้างบ้าน” ที่ควรรู้!
- ประเภทของ “งานก่อสร้าง” มีกี่แบบ?
KACHA ผู้จัดจำหน่าย เครื่องมือช่างราคาถูก เช่น รอกโซ่ รอกโซ่มือสาว เครนยกของ และอุปกรณ์เสริม สำหรับช่างมืออาชีพ ราคาที่คุณจับต้องได้ รับรองสินค้าคุณภาพ บริการหลังการขายที่ประทับใจ นอกจากนี้ บริษัทของเรา ยังมีบริการรับ สร้างโกดัง สร้างโรงงาน สร้างคลังสินค้าต่าง ๆ จากช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ การันตีผ่านมาตรฐานก่อสร้าง และความปลอดภัยต่าง ๆ เข้าชมเว็บไซต์ www.kacha.co.th