“สายไฟ สายไฟฟ้า” มีกี่ประเภท? ใช้งานอย่างไรบ้าง?
การเลือกใช้ สายไฟ ให้เหมาะสมนั้น อาจจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวผู้ใช้งานอย่างมาก เพราะการเลือกใช้สายไฟ โดยส่วนใหญ่จะต้องเป็นผู้ชำนาญการในการเลือกใช้ แต่ทั้งนี้ ควรจะมีความรู้เกี่ยวกับสายไฟว่ามีกี่ชนิด และวิธีการเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสมด้วย
ตาม KACHA ไปทำความรูจักกับ สายไฟ สายไฟฟ้า ให้มากขึ้นกัน
สายไฟ สายไฟฟ้า คืออะไร?
สายไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่เป็นตัวกลางในการนำกระแสไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟ ไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยสายไฟประกอบไปด้วย ตัวนำไฟฟ้า ซึ่งจะทำจากโลหะที่ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ดี และมีความต้านทานไฟฟ้าน้อย เช่น ทองแดง และฉนวนไฟฟ้า ที่ใช้ในการหุ้มป้องกันไม่ให้ผู้ใช้กับสายโดยตรง และลดโอกาสที่จะทำให้เกิดอันตรายจากไฟฟ้าด้วย
ประเภทของ สายไฟ มีแบบไหนบ้าง?
1. สายไฟแรงดันต่ำ
- สายไฟที่ใช้กับแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เกิน 750 โวลต์ (750V)
- สายไฟนั้นทำด้วยทองแดง หรืออะลูมิเนียม แต่โดยทั่วไปจะเป็นสายทองแดง
- สายขนาดเล็ก จะเป็นสายตัวนำเดี่ยว และสายขนาดใหญ่จะเป็นตัวนำตีเกลียว
- ฉนวนที่ใช้งานจะเป็น PVC และ XLPE
ชนิดของสายไฟแรงดันต่ำ
- สายไฟชนิด THW เป็นสายไฟชนิดแรงดันต่ำ รองรับแรงดันได้ 750V เป็นสายชนิดเดี่ยว มีการใช้งานอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากนำไปใช้ในวงจรไฟฟ้า 3 เฟสได้ ซึ่งสายไฟชนิดนี้ ไม่เหมาะสำหรับการเดินฝังดินโดยตรง และเมื่อต้องการเดินลอยจะต้องยึดสายด้วย Insulator ด้วย
- สายไฟชนิด VAF เป็นสายไฟชนิดแรงดันต่ำ สามารถทนแรงดันได้ 300V มีทั้งชนิดสายเดี่ยว สายคู่ และแบบสามสายที่รวมสายดินไปด้วย โดยที่แต่ละสายก็จะมีฉนวนหุ้ม และมีเปลือกหุ้มที่เป็นฉนวนอยู่อีกชั้นหนึ่งด้านนอก เป็นสายไฟชนิดที่นิยมในการเดินภายในบ้านทั่วไป แต่ไม่สามารถใช้งานในการติดตั้งไฟฟ้า 3 เฟสได้ เพราะไม่สามารถรองรับแรงดันที่ 380V ได้ ยกเว้นจะติดตั้งแบบแยกเป็นแบบ 1 เฟส และใช้แรงดัน 220V
- สายไฟชนิด VCT เป็นสายไฟชนิดแรงดันต่ำ สามารถทนแรงดันได้ 750V ตัวสายมีลักษณะกลม มีทั้งชนิด 1 ,2 แกน, 3 แกน และ 4 แกน โดยจุดเด่นของสายชนิดนี้ คือ จะเป็นสายที่ประกอบด้วยสายทองแดงฝอยเส้นเล็ก ๆ จึงทำให้สายมีความอ่อนตัว และทนต่อการสั่นสะเทือนได้ดี และยังเป็นสายที่สามารถต่อลงดินได้
- สายไฟชนิด NYY เป็นสายไฟชนิดกลม ที่สามารถทนแรงดันได้ 750V มีทั้งแบบแกนเดียว และหลายแกน เป็นสายที่นิยมใช้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นสายที่มีเปลือกหุ้มอีกชั้น จึงสามารถป้องกันความเสียหายทางกายภาพได้ดี โดยสายชนิดนี้ สามารถเดินฝังใต้ดินได้
2. สายไฟแรงดันสูง
- จะเป็นสายชนิดตีเกลียวที่มีขนาดใหญ่
- สายชนิดนี้ จะมีทั้งสายแบบทั้งแบบเปลือย และหุ้มฉนวน
- สายไฟสามารถรับแรงดันได้ตั้งแต่ 1KV ~ 36KV
ชนิดของสายไฟแรงดันสูง
- สายไฟฟ้าอลูมิเนียมตีเกลียวชนิดเปลือย (AAC) เป็นสายที่ใช้ตัวนำเป็นอะลูมิเนียมพันตีเกลียวเป็นชั้น ๆ สายชนิดนี้ สามารถรับแรงดันได้ต่ำ จึงไม่สามารถขึงสายให้กับเสาที่มีระยะห่างมาก ๆ ได้ โดยทั่วไปจะไม่เกิน 50 เมตร ยกเว้นสายที่มีขนาด 95 มิลลิเมตร ขึ้นไปอาจจะขึงได้ถึง 100 เมตร
- สายไฟฟ้าอลูมิเนียมชนิดผสม (AAAC) เป็นสายที่ผสมตัวนำจากหลายวัสดุ ทั้งอะลูมิเนียม, แมกนีเซียม และซิลิคอน ทำให้มีความเหนียว และแรงดันได้สูงกว่า สายอะลูมิเนียมล้วน ๆ ทำให้ขึงสายได้ในระยะห่างได้มากขึ้น และทนต่อการกัดกร่อนของไอเกลือได้ดี จึงนิยมใช้เดินสายในบริเวณชายทะเล
- สายไฟฟ้าอลูมิเนียมชนิดแกนเหล็ก (ACSR) เป็นสายไฟที่ใช้ตัวน้ำเป็นอะลูมีเนียมตีเกลียว และมีสายเหล็กอยู่ตรงกลาง ทำให้สามารถรับแรงดึงได้สูงขึ้น ทำให้สามารถขยายระยะห่างระหว่างเสาในการขึงได้มากขึ้น แต่สายชนิดนี้ ไม่ทนต่อการกัดกร่อนของไอเกลือ จึงไม่ควรใช้งานบริเวณชายทะเล
- สาย Partial Insulated Cable (PIC) เป็นสายไฟชนิดที่นำมาใช้แทนสายเปลือย เพราะสายเปลือยมีโอกาสที่ไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย โดยสายชนิดนี้ ประกอบด้วยตัวนำอะลูมิเนียมตีเกลียว แล้วหุ้มด้วยฉนวน XLPE แต่ถึงแม้ว่าสายนี้จะหุ้มฉนวนจริง แต่เป็นเพียงฉนวนที่ช่วยป้องกันการลัดวงจรเพียงเท่านั้น ห้ามสัมผัสโดยตรง
- สาย Space Aerial Cable (SAC) เป็นสายไฟที่มีอะลูมิเนียมตีเกลียวเป็นตัวนำ และหุ้มด้วยฉนวน XLPE เช่นเดียวกันกับสายไฟชนิด PIC แต่จะมีเปลือกหุ้มอีกชั้นหนึ่ง ทำให้มีความทนทานมากกว่าสายชนิด PIC แต่ถึงแม้ว่าจะหุ้มเปลือกอีกชั้น ก็ไม่ควรแตะต้องโดยตรงเช่นกัน แต่สายชนิดนี้ ก็สามารถวางใกล้กันได้มากกว่าสาย PIC
- สาย Preassembiy Aerial Cable (PAC) เป็นสายไฟที่จัดเป็นสายชนิด Fully Insulated มีโครงสร้างใกล้เคียงกับสายไฟชนิด XLPE มีตัวนำเป็นอะลูมิเนียม มีความทนทานมาก เป็นสายที่วางใกล้กันได้ สามารถเดินผ่านอาคาร หรือบริเวณที่มีคนอาศัยอยู่ หรือวางพาดไปกับมุมตึกได้
- สาย Cross-linked Polyethylene (XLPE) เป็นสายที่นิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน จัดเป็นสายชนิด Fully Insulated ที่มีส่วนประกอบหลายส่วน ดังนี้
- ตัวนำ: โดยส่วนใหญ่จะเป็นทองแดงตีเกลียว ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปแบบของ Copper Concentric Strand หรือ Copper Compact Strand
- ชีลด์ของตัวนำ: ทำจากสารกึ่งตัวนึง ทำให้สนามไฟฟ้าระหว่างตัวนำกับฉนวนกระจายได้อย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดการเกิด Breakdown
- ฉนวน: เป็นชั้นที่หุ้มห่อชั้นชีลด์ของตัวน้ำอีกชั้นหนึ่ง ทำด้วยฉนวน XLPE
- ชีลด์ของฉนวน: เป็นชั้นที่หุ้มทับชั้นของฉนวนอีกที และหุ้มด้วยชั้นของลวดทองแดง หรือเทปทองแดงอีกที เพื่อจำกัดสนามไฟฟ้าให้อยู่ภายในสายเคเบิ้ล ป้องกันการรบกวน และการต่อชีลด์ลงดินจะช่วยลดอันตรายจากการสัมผัสถูกสายเคเบิ้ลด้วย ทำให้การกระจายของแรงดันอย่างสม่ำเสมอ
- เปลือกนอก: โดยทั่วไปจะหุ้มด้วยพลาสติก PVC หรือ PE ขึ้นอยุ่กับลักษณะของงาน โดยทั่วไปถ้าใช้งานกลางแจ้งจะใช้เป็น PVC ส่วน PE มักจะใช้กับการเดินลอย เพราะมีความทนทานต่อสภาพอากาศ และถ้าหากเดินใต้ดินอาจจะมีชั้นของ Service Tape อาจจะทำด้วยผ้า คั่นระหว่างชีลด์กับเปลือกนอก ช่วยป้องกันการเสียดสี และกระทบกระแทก
วิธีเลือกใช้สายไฟให้เหมาะสม
การเลือกใช้สายไฟให้เหมาะสมกับงาน เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง โดยปกติช่างที่ผ่านการอบรมมาจะมีความรู้ในเรื่องการใช้สายไฟอยู่แล้ว หากมีการซื้อสายไฟโดยให้คนที่ไม่มีความรู้ไปซื้อ อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ ดังนั้น การเลือกใช้สายไฟฟ้าให้เหมาะสมกับบ้าน มีข้อควรรู้ ดังนี้
- เลือกใช้สายไฟที่ผ่านมาตรฐานจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือ มอก. และเพื่อความปลอดภัยที่ใช้ในงาน ควรเลือกใช้สายไฟที่ได้รับมาตรฐาน และได้รับการยอมรับในระดับสากลดีที่สุด
- ต้องมีความรู้ความเข้าใจว่า สายไฟแต่ละอย่างใช้งานไม่เหมือนกัน หากต้องการใช้สายไฟที่ใช้การตีกิ๊บเดินลอยในบ้าน ต้องเลือกสายไฟให้ถูกลักษณะ แต่หากต้องการใช้สายไฟที่ใช้ในการร้อยท่อเป็นหลัก ก็ต้องเลือกใช้อีกแบบหนึ่ง แต่โดยปกติแล้วช่างจะเป็นคนแนะนำให้ หรือจะเป็นการเขียนสเปก แล้วให้เจ้าของบ้านเป็นคนไปซื้อมา เพื่อป้องกันการซื้อผิดพลาด
การเลือกใช้สายไฟนั้น ไม่ใช่เพียงคำนึงแค่เรื่องการใช้งาน ราคา และความคุ้มค่าเท่านั้น แต่จะต้องรู้ด้วยว่าสามารถใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้เหมาะสมหรือไม่ หากต้องมีการเดินสาย เพื่อใช้งานไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น การใช้แอร์ตู้เย็น หรือไมโครเวฟ ที่ต้องอยู่ติดกัน ควรเลือกสายไฟที่มีคุณภาพ และให้ช่างผู้ชำนาญการเป็นคนติดตั้งเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในบ้านนั่นเอง
- ทำความรู้จัก “สีสายไฟ” แต่ละสี มีความหมายอย่างไรบ้าง?
- ตรวจ “ระบบไฟฟ้า” ด้วยตัวเอง ทำได้อย่างไร?
- ท่อร้อยสายไฟ ดีอย่างไร? เดินแบบไหนดีกว่ากัน…
- เลือก “มิเตอร์ไฟฟ้า” แบบไหนให้เหมาะสมกับบ้าน
KACHA ผู้จัดจำหน่าย รอกโซ่ รอกโซ่มือสาว เครนยกของ และอุปกรณ์เสริมสำหรับงานช่าง ต่าง ๆ ราคาจับต้องได้ สินค้าคุณภาพ บริการหลังการขายที่ประทับใจ นอกจากนี้ บริษัทของเรา ยังมีบริการรับ สร้างโกดัง สร้างโรงงาน สร้างคลังสินค้าต่าง ๆ จากช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ การันตีผ่านมาตรฐานก่อสร้าง และความปลอดภัยต่าง ๆ เข้าชมเว็บไซต์ www.kacha.co.th