ทำความรู้จัก เหล็กกล่อง คือเหล็กอะไร? มีทั้งหมดกี่ประเภท?

การเลือกวัสดุในการก่อสร้าง นอกจากความแข็งแรง ทนทานแล้ว การเลือกวัสดุที่มีน้ำหนักเบา ขนย้ายสะดวก ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลดีต่องานก่อสร้าง เหล็กกล่อง เลยเป็นอีกหนึ่งวัสดุที่มักถูกเลือกใช้บ่อย ๆ บทความนี้เลยจะพาทุกคน ไปทำความรู้จักกับเจ้าเหล็กชนิดนี้ให้มากขึ้นกัน!

เหล็กกล่อง คืออะไร? มีกี่ประเภท?

เหล็กกล่อง คืออะไร? มีกี่ประเภท?

เหล็กกล่อง (Steel Tube) เป็นหนึ่งในชนิดของเหล็กรูปพรรณ ที่ผ่านการรีดร้อน และดัดแปลงให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ ด้วยความร้อนมาแล้ว มักนิยมถูกใช้ในการทำโครงสร้าง ทําเสาบ้าน คานบ้าน หรือโครงหลังคา เพราะเหล็กชนิดนี้น้ำหนักเบา ภายในโปร่ง พื้นผิวเรียบ ง่ายต่อการขนย้าย อีกทั้งยังแข็งแรง ทนทาน สามารถรับแรงต้านได้ดี มีความหนาและความยาวมาตรฐาน โดยเหล็กกล่องสามารถแบ่งย่อยได้อีก 2 ประเภทดังนี้

เหล็กกล่อง คืออะไร? มีกี่ประเภท?
  • เหล็กกล่องแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส (Square Steel Tube)

เหล็กกล่องสี่เหลี่ยม หรือ เหล็กแป๊ปโปร่ง มีลักษณะกลวงแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุมฉาก 90 องศา เรียบคม ไม่มน ผิวเหล็กเรียบไม่หยาบ ความยาวมาตรฐาน 6 เมตร/เส้น ผิดพลาดได้ไม่เกิน 2%

เหมาะสำหรับงาน

    • โครงสร้างทั่วไปที่ไม่รับน้ำหนักมาก เช่น เสา,นั่งร้าน เป็นต้น
    • นำไปประยุกต์ใช้ในงานทั่วไป ทดแทนการใช้ไม้ คอนกรีต และเหล็กรูปพรรณชนิดอื่นๆ ได้
  • เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมแบบแบน (Rectangular Steel Tube)

เหล็กหลอดเหลี่ยม เหล็กแป๊บแบน หรือ เหล็กกล่องไม้ขีด มีลักษณะกลวงเป็นท่อสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีมุมฉาก 90 องศา เรียบคม ไม่มน ผิวเหล็กเรียบไม่หยาบ ความยาวมาตรฐาน 6 เมตร/เส้น ผิดพลาดได้ไม่เกิน 2%

เหมาะสำหรับงาน

    • งานก่อสร้างสร้างทั่วไปที่มีขนาดเล็ก และขนาดกลาง เช่น เสา,นั่งร้าน,ประตู เป็นต้น
    • นำไปประยุกต์ใช้ในงานทั่วไป ทดแทนการใช้ไม้ คอนกรีต และเหล็กรูปพรรณชนิดอื่นๆ ได้
  • เหล็กกล่องเกรดบี

เป็นเหล็กกล่องที่ถูกผลิตออกมามาตรฐานเดียวกับเหล็กเกรดเอทุกประการ ยังไม่ผ่านการใช้งาน มีความยาว 6 เมตรเต็ม แต่จะมีตำหนิเล็กน้อย ตรงรอยเชื่อมต่อ เพราะการต่อของสลิต จึงทำให้เหล็กเกรดบีมีราคาที่ถูกกว่าค่อนข้างมาก แต่สามารถนำมาใช้งานแทนเหล็กเกรดเอได้ ทำให้เหล็กเกรดบีมีความนิยมมาใช้ในงานก่อสร้าง ต่อเติม และงานซ่อมแซมไม่แพ้กัน

ข้อดีของการใช้ เหล็กกล่อง

ข้อดีของการใช้ เหล็กกล่อง
  • มีน้ำหนักเบา ทำให้สะดวกต่อการขนย้าย ต่อเติม
  • มีหลายขนาดความหนา เพื่อให้เลือกใช้กับงานประเภทต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม
  • มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถใช้งานได้นาน ช่วยประหยัดในระยะยาว
  • มีความยืดหยุ่นสูง จึงช่วยลดการเสียรูปอย่างถาวร
  • ก่อสร้างได้ง่าย นำไปตัด เชื่อมง่าย รวดเร็ว ใช้งานสะดวก
  • ราคาไม่แพง ทำให้ช่วยประหยัดต้นทุนไปได้มาก
  • นำมาประยุกต์กับงานก่อสร้างได้หลากหลายรูปแบบ เช่น บ้าน ที่พักอาศัย อาคารพาณิชย์ เสา โครงสร้างหลังคา ทำคานเหล็ก โรงจอดรถ เป็นต้น

ทริคเลือกซื้อ เหล็กกล่อง อย่างไรให้ได้คุณภาพดี

ทริคเลือกซื้อ เหล็กกล่อง อย่างไรให้ได้คุณภาพดี

หากต้องการเหล็กกล่องคุณภาพดี ควรพิจารณาดังต่อไปนี้

    1. เหล็กกล่องต้องมีคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน โดยได้รับมาตรฐาน SS400
    2. เหล็กต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน มอก. เพราะเป็นการการันตีคุณภาพของเหล็กกล่องได้เป็นอย่างดี ซึ่งปกติแล้วงานโครงการ และ งานราชการส่วนใหญ่ จะเลือกใช้เหล็กที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก.
    3. เหล็กกล่องต้องได้มุมฉาก 90 องศา มุมเรียบคม ไม่มน ผิวเหล็กเรียบไม่หยาบ ความยาวมาตรฐาน 6 เมตร/เส้น
    4. เหล็กกล่องเมื่อวัดแล้วต้องได้เต็มนิ้ว เต็มมิลลิเมตร ที่กำหนด และควรเปรียบเทียบกับน้ำหนักจริง ไม่ใช่เพียงดูแค่ที่ความหนาของเหล็กเท่านั้น

เหล็กกล่อง ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ในการนำไปใช้ทำงานก่อสร้าง เพราะนอกจากราคาถูก ยังแข็งแรง ทนทาน แถมน้ำหนักเบา ง่ายต่อการขนย้ายอีกต่างหาก แต่อย่างไรก็ตามก่อนเลือกใช้ควรพิจารณาประเภทและขนาดความหนา ให้เหมาะสมกับการใช้งานด้วยนะคะ!

ข้อมูลอ้างอิง : tnpshoponline, jorakay, thaimetallic, metalsteelok

สินค้าที่เกี่ยวข้อง