พัดลมระบายอากาศ หรือ พัดลมดูดอากาศ เจ้าของบ้านในยุคปัจจุบันได้หันมาให้ความสนใจเรื่องระบบระบายอากาศภายในบ้านมากขึ้น ต่างจากเดิมที่มีความเชื่อว่า ควรติดตั้งเฉพาะในพื้นที่ที่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศเท่านั้น ในปัจจุบันมีการใช้กันมากขึ้นอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นภายในห้องครัว ห้องน้ำ หรือห้องนั่งเล่น ก็มักจะติดตั้งพัดลมดูดอากาศกัน
วันนี้ KACHA มีสาระดี ๆ เกี่ยวกับ ❝ พัดลมดูดอากาศ ❞ มาฝากกัน จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกัน
ประเภทของ พัดลมดูดอากาศ
พัดลมดูดอากาศแบบติดผนัง
เป็นพัดลมดูดอากาศที่ได้รับความนิยม เนื่องจากตอบโจทย์การใช้งาน ทั้งในด้านฟังก์ชั่น ดีไซน์ และอายุการใช้งานที่มีความยาวนาน โดยวิธีการติดตั้งก็ไม่ยุ่งยาก เพียงทำการเจาะช่องให้มีขนาดพอดีกับขนาดของพัดลม และใช้สกรูยึดตัวพัดลมเข้ากับผนัง หลังจากนั้น ให้ใช้ปูนยาแนวเก็บรายละเอียดรอบ ๆ พัดลมดูดอากาศให้สวยงามเรียบร้อย แต่ข้อเสียของพัดลมดูดอากาศแบบติดผนัง คือ มีความยุ่งยาก และเป็นเรื่องใหญ่หากต้องการถอดมาทำความสะอาด หรือซ่อมแซม
พัดลมดูดอากาศแบบติดกระจก
นิยมติดตั้งเข้ากับกระจกทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นกระจกเหนือบานหน้าต่าง หรือกระจกประตู
พัดลมดูดอากาศแบบติดเพดาน
ข้อดีของพัดลมดูดอากาศ พัดลมระบายอากาศ
- ช่วยระบายความร้อน
ในห้องที่ไม่มีหน้าต่าง หรือเป็นห้องที่ปิดมิด จะทำให้เกิดความร้อนง่าย การติดตั้งพัดลมระบายอากาศ สามารถช่วยลดความร้อนได้ โดย พัดลมระบายอากาศ จะติดตั้งอยู่ด้านบนฝ้าเพดาน เพราะตามทฤษฎีแล้ว ความร้อนจะลอยขึ้นจากพื้นอยู่ในอากาศ ดังนั้น การติดพัดลมระบายอากาศไว้ที่ด้านบนฝ้าเพดาน จึงช่วยดูดความร้อนออกได้เป็นอย่างดีนั่นเอง
- ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
หน้าที่หลัก ๆ ของพัดลมระบายอากาศ คือ การระบายอากาศ เพื่อช่วยให้อากาศในห้องนั้น ๆ มีการถ่ายเทที่สะดวก เช่น ห้องนอน ที่จะมีการปิดประตูไว้มิดชิดทุกครั้ง ทำให้อากาศในห้องถ่ายเทได้ไม่สะดวก ก่อนเข้าใช้งาน จึงควรเปิดพัดลมระบายอากาศก่อน
- ช่วยลดฝุ่นละอองภายในห้อง
เพราะฝุ่นละอองมีขนาดเล็ก และสามารถเกิดขึ้นได้แม้ในห้องที่ปิดมิด การติดตั้งพัดลมระบายอากาศ จึงช่วยดูดฝุ่นออกไปได้ ช่วยลดการเกิดโรคภูมิแพ้ หรือฝุ่นละอองสะสมในห้อง
- ช่วยลดความชื้อน หรือคราบสะสมอาหาร
สำหรับบ้านที่มีห้องครัวอยู่ในบ้าน การติดตั้งพัดลมระบายอากาศ พัดลมดูดอากาศ เป็นทางเลือกที่ดี เพราะช่วยดูดกลิ่นอาหารที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ ขณะที่ทำอาหารได้ ช่วยให้คราบอาหาร หรือกลิ่นอาหารไม่ไปติดตามผ้าม่าน เสื้อผ้า โซฟา หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ๆ จนเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และเชื้อรา
- ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในห้อง ต่าง ๆ
เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว กลิ่นน้ำหอม กลิ่นอับ กลิ่นอาหาร ฯลฯ หากมีกลิ่นในห้อง ก็สามารถเปิดพัดลมระบายอากาศ เพื่อช่วยดูดออกได้ เป็นการทำให้ห้องได้มีอากาศถ่ายเทอีกด้วย
ข้อเสียของพัดลมดูดอากาศ พัดลมระบายอากาศ
- เสียงดัง อาจรบกวนการนอนหลับ หรือการทำกิจกรรมอย่างอื่น
- หากเปิดพร้อมกับเครื่องปรับอากาศ จะทำให้เปลืองพลังงาน และอาจทำให้ระบบตัดไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศไม่ทำงาน
- ทำให้ห้องดูไม่สวยงาม
วิธีทำความสะอาด พัดลมดูดระบายอากาศ และพัดลมระบายอากาศ
- ขั้นตอนแรก เริ่มด้วยถอดส่วนประกอบต่าง ๆ ออกมา แต่ต้องไม่ลืมหากระดาษมาวางด้วย เพื่อป้องกันคราบสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้เลอะเทอะ
- ถอดฝาปิดตัวใบพัด และหมุนตามเข็มนาฬิกา แล้วนำใบพัดของพัดลมดูดอากาศออกมา
- ถอดฝาครอบตัวนอกเครื่องออก จนเห็นน๊อตที่ยึดตัวฐานของพัดลมดูดอากาศออก โดยใช้ไขควง
- ดึงตัวฐานของพัดลมดูดอากาศออกจากฝาครอบตัวด้านในออก
- ทำความสะอาดใบพัด ฐานพัดลม ด้วยผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน โดยนำไปผสมกับน้ำสะอาด หาฟองน้ำมาเช็ด และทำความสะอาดสิ่งสกปรกต่าง ๆ
- เมื่ออุปกรณ์ต่าง ๆ แห้ง จึงประกอบเข้าตามเดิม
วิธีการดูแลบำรุงรักษาพัดลมระบายอากาศ
ขั้นตอนที่ 1
ไม่ควรเปิดพัดลมดูดอากาศทิ้ง ไว้เมื่อไม่มีใครอยู่เปิดทิ้งไว้วันละ 1 ชั่วโมง ควรเปิดหน้าต่าง เพื่อใช้ลมธรรมชาติ ช่วยถ่ายเทอากาศในห้อง
ขั้นตอนที่ 2
หมั่นทำความสะอาดใบพัดและตะแกรง อย่าให้มีฝุ่นเกาะ และควรตั้งความเร็วพัดลมให้พอเหมาะ ไม่เร็วหรือช้าเกินไป จะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี และเป็น การประหยัดไฟอีกด้วย
ขั้นตอนที่ 3
ห้องที่จะติดเครื่องปรับอากาศ ควรเลือกติดตั้งขนาดพัดลมระบายอากาศให้เหมาะสม เพื่อสุขอนามัย และถ้าติดตั้งขนาดใหญ่เกินไป จะทำให้สิ้นเปลืองไฟได้
จะเห็นได้ว่า พัดลมดูดอากาศ พัดลมระบายอากาศ ก็มีประโยชน์ต่อบ้านของคุณมากมาย และแม้ว่าจะไม่ใช่ของที่ต้องมีทุกบ้าน แต่ก็เป็นสิ่งที่มีแล้ว จะช่วยให้ระบบอากาศบ้านของคุณดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะกับพื้นที่ ๆ มีปัญหาฝุ่นควัน และอย่าลืมเลือกชนิดที่เหมาะสำหรับการติดตั้งในแต่ละห้อง เพื่อประโยชน์การใช้งานที่ดีกันด้วยนะจ๊ะ ????????
