❝ เมื่อพูดถึงการออกแบบบ้าน หลายคนมักจะนึกถึงการตกแต่งและสร้างบ้านแบบ “มินิมอล” หรือ Minimal Style การตกแต่งบ้านที่กําลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ เป็นสไตล์การตกแต่งที่เรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่มากด้วยประโยชน์ รวมไปถึงการเลือกใช้งานสิ่งต่าง ๆ ตามความจําเป็นเท่านั้น ซึ่งจะถูกจัดวางอย่างมีระเบียบเรียบร้อย มีโทนสีแบบโมโนโทนหรือสีอ่อน ๆ สร้างความสมดุล และความผ่อนนั่นเอง ❞
การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ยังนิยมที่จะจัดพื้นที่ให้มีความว่าง และดูกว้างขวาง การตกแต่งบ้านสไตล์นี้จึงเหมาะมาก ๆ สําหรับหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่รักความสงบ และชอบการตกแต่งบ้านที่เน้นความสะอาด ปลอดโปร่ง โล่งสบายเป็นอย่างยิ่ง
ตาม KACHA ไปดูกันดีกว่าว่าการมีบ้านแบบมินิมอล และวิธีการตกแต่งบ้านให้เป็นสไตล์นี้ เป็นอย่างไรบ้าง?
มินิมอล (Minimal Style) คืออะไร?
มินิมอลกลายเป็นสไตล์การแต่งบ้านยอดนิยมในยุคปัจจุบันที่เน้นให้ความสำคัญกับความเรียบง่ายเป็นหลัก ด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่มีสีสรรฉูดฉาดมาก มีจำนวนเฟอร์นิเจอร์กับของตกแต่งไม่จำเป็นต้องเยอะ เอาแค่ที่พอดี อะไรไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใส่เข้าไปในห้อง นอกจากนี้ยังเน้นความสว่างจากแสงไฟธรรมชาติเป็นหลัก หรือใช้หลอดไฟที่มีสีสรรไม่ฉูดฉาด เน้นความเรียบง่ายในทุกองค์ประกอบ เก็บกวาดดูแลรักษาความสะอาดได้ง่าย
สไตล์การตกแต่งบ้านแบบ Minimalist ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ใช่เฉพาะแค่การตกแต่งบ้านเท่านั้น แต่ยังไปในวงการโรงแรม โฮสเทล ร้านกาแฟ และร้านคาเฟ่ต่าง ๆ ก็นิยมตกแต่งด้วยสไตล์เรียบง่ายแบบนี้มากยิ่งขึ้น ด้วยความที่แก่นหลักคือ ความเรียบง่ายทำให้การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ ต้องวิเคราะห์จากสถานที่ด้วยว่าควรเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์แบบไหน
ลักษณะการตกแต่งที่บ่งบอกถึงความเป็นมินิมอล
-
มีพื้นที่เหลือใช้เยอะ
ด้วยความที่สไตล์มินิมอลมีการใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เน้นการเลือกใช้แต่ของที่จำเป็น และของตกแต่งเหล่านั้นต้องมีความเรียบง่าย ทำให้การตกแต่งสไตล์นี้ มีพื้นที่ว่างเหลืออยู่มาก คือเป็นอัตราส่วนโดยประมาณ Space 60%, Decoration 40%
-
ใช้สีน้อย ๆ หรือสีโมโนโทนในการตกแต่ง
สไตล์มินิมอลจะใช้โทนสีในการตกแต่งไม่มากนัก และส่วนใหญ่จะเป็นสีพื้นที่ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับห้อง โทนสีที่ใช้สำหรับบ้านสไตล์มินิมอล ควรเป็นสีออกโมโนโทนหรือสีอ่อน ๆ เช่น สีขาว, เทาอ่อน, เทาเข้ม, น้ำตาลอ่อน
-
เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่จำเป็น และมีดีไซน์เฉพาะตัว
เฟอร์นิเจอร์ในแบบมินิมอลสไตล์ ถึงแม้จะมีความเรียบ ไม่เน้นรวดลาย แต่ดีไซน์ต้องดูทันสมัย หรือมีรูปทรงที่น่าสนใจ เช่น โคมไฟเรียบ ๆ หรือดีไซน์บางเฉียบ เก้าอี้พื้น ๆ ที่ไม่มีลวดลาย แต่มีรูปทรงที่ดูมีคอนเซ็ปต์ ลดทอนความเยอะ และไม่จำเป็นให้เหลือแต่ความเรียบง่ายที่ดูโดดเด่นในแบบของตัวเอง
-
คุณภาพ สำคัญกว่าปริมาณ
การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ต้องมีระบบการจัดเก็บของที่ดี เพื่อความสะอาด และความเป็นระเบียบ เพราะฉะนั้นการออกแบบห้อง มักจะออกแบบให้ถูกซ่อนอย่างกลมกลืนไปกับอาคาร หรือเครื่องเรือน เช่น การออกแบบผนัง พื้นที่ใต้บันได หรือมุมต่าง ๆ ให้สามารถซ่อนตู้ หรือลิ้นชักเก็บของได้ โดยออกแบบหน้าบานต่าง ๆ ให้กลมกลืนไปกับผนังห้อง เป็นต้น
วิธีการตกแต่งบ้านให้เป็นสไตล์มินิมอล
- ตกแต่งไปทีละห้อง การจะตกแต่งบ้าน หรือห้องคอนโดทั้งหมดพร้อม ๆ กันอาจจะยากเกินไป เพราะฉะนั้น ลองเริ่มจากการตกแต่งห้องเพียงหนึ่งห้องก่อน เช่น ห้องทำงาน หรือห้องนั่งเล่น ที่คุณชอบใช้เวลาอยู่ในนั้นบ่อย ๆ ลองค่อย ๆ ตกแต่งไปทีละเล็กละน้อยจนพอใจ เสร็จแล้วใช้ห้องที่คุณเพิ่งตกแต่งเสร็จนี่แหละ เป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่งห้องต่อ ๆ ไป
- เลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสม แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการทำให้ห้องสักห้องดูสวยงาม น่าอยู่ คือ เฟอร์นิเจอร์ สำหรับบ้านสไตล์มินิมอล คุณควรเริ่มจากการลดทอน (Simplify) ห้องสักห้อง ฃด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์ให้น้อย น้อยในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าแทบจะไม่มีเฟอร์นิเจอร์เหลือให้ใช้เลย ลองเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่จำเป็นจริง ๆ ทิ้งไป โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่คุณควรเลือก คือพวกเฟอร์นิเจอร์ที่ดูเรียบง่าย แต่มีดีไซน์ที่สวยงาม ในโทนสีเข้ม หรืออ่อนก็ได้แล้วแต่ความชอบ
- เลือกเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ และสิ่งของที่มีประโยชน์จริง ๆ เวลาเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ ให้ถามตัวเองว่าของสิ่งนี้มีความจำเป็นที่จะต้องมีหรือเปล่า เช่นเดียวกับเวลาจัดบ้านใหม่ ถ้ามีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนที่คุณรู้สึกว่าก็อยู่ได้โดยที่ไม่มีมัน นั่นก็หมายความว่าคุณควรกำจัดมันออกไปซะ อย่าลืมว่าหัวใจสำคัญในการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล คือ การมีเฟอร์นิเจอร์ และของใช้สอยต่าง ๆ ที่มีประโยชน์และมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตจริง ๆ
วัสดุที่บ่งบอกถึงความเป็นมินิมอล
วัสดุที่บ่งบอกถึงความเป็น Minimal Style มีหลายอย่างด้วยกัน แต่จุดเด่นของวัสดุเหล่านั้นที่จะทำให้การตกแต่งโดยรวมออกมาเป็น Minimal คือ ต้องมีความเรียบง่าย จับไปวางตรงไหนก็ทำให้ห้องดูสบายตา ไม่โดดออกมาจากภาพรวมมากเกินไป เช่น
|
|
สำหรับความหนาไม้ลามิเนตที่นิยมนำไปใช้งาน จะมีความหนาตั้งแต่ 6 -12 มิลลิเมตร โดยขนาดความกว้าง x ยาว ที่นิยมนำไปใช้งาน ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 195 x 1200 มิลลิเมตร และในส่วนอายุการใช้งานนั้น เกรดธรรมดาจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 10-15 ปี และเกรดพรีเมี่ยม มีอายุการใช้งานเฉลี่ยมากกว่า 15 ปี ขึ้นไป
ประเภทของแผ่นพลาสวูด แผ่นพลาสวูด คุณสมบัติของพลาสวูด สามารถแบ่งประเภทตามความแข็งของวัสดุได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้ |
|
สำหรับความหนาแผ่นคริสตัลบอร์ดที่นิยมนำไปใช้งาน จะมีความหนาตั้งแต่ 6 -12 มิลลิเมตร โดยขนาดความกว้าง x ยาว ที่นิยมนำไปใช้งาน ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 195 x 1200 มิลลิเมตร และในส่วนอายุการใช้งานนั้น เกรดธรรมดาจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 10-15 ปี และเกรดพรีเมี่ยม มีอายุการใช้งานเฉลี่ยมากกว่า 15 ปี ขึ้นไป
|
|
|
ในกรณีที่กระจกเทมเปอร์เกิดการแตกหัก จะแตกออกเป็นเม็ดคล้ายเม็ดข้าวโพด ซึ่งมีความแหลมคมไม่มาก ทำให้มีโอกาสเกิดอันตรายน้อยกว่ากระจกธรรมดา เหมาะสำหรับงานที่มีความเสี่ยงต่อการแตกร้าว และต้องการความปลอดภัยที่เกิดจากกระจกแตกร้าว (Safety)