❝ เทรนด์การแต่งบ้านด้วย “ระแนงไม้ หรือ ไม้ระแนง” ในปัจจุบันยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้คนในยุคนี้หันมาให้ความสนใจในบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งสะท้อนออกมาด้วยการตกแต่งอาคารให้ดูปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย และใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะสไตล์ฟาร์ม สเตย์, ทรอปิคอลคันทรี่,โบทานิก้า หรือสไตล์ทรอปิคอลร่วมสมัย ❞
วันนี้ตาม KACHA ไปรู้จักกับระแนงไม้ หรือไม้ระแนง ให้มากขึ้นกัน
ระแนงไม้ (Wooden Battens) คืออะไร?
ระแนงไม้ หรือไม้ระแนง คือ องค์ประกอบส่วนหนึ่งของงานสถาปัตยกรรม และการตกแต่ง จะมีลักษณะเป็นแผงไม้หน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่จัดเรียงด้วยช่องไฟที่เท่า ๆ กัน ทั้งแบบแนวตั้ง และแนวนอน ซึ่งเกิดจากการนำไม้จริงท่อนยาว มาตีทับบนโครงคร่าว, จันทัน หรือตามรูปแบบโครงสร้างในแต่ละพื้นที่การใช้งาน เรามักพบเห็นระแนงตามอาคารหลาย ๆ แห่ง เช่น ระแนงหลังคา, ระแนงกันแดด หรือรั้วระแนง นอกจากนี้ระแนง ยังทำหน้าที่ส่งเสริมด้านสุนทรียศาสตร์ความสวยงามให้กับตัวอาคารอีกด้วย
ส่วนประกอบของระแนงไม้
ไม้ระแนงที่นำมาใช้ในการตกแต่งนั้น ถ้าใช้ภายนอกอาคาร ควรเลือกไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้เต็ง, ไม้แดง, ไม้มะค่า แต่ถ้าใช้ภายในอาคาร อาจจะใช้ไม้เนื้ออ่อนได้ เช่น ไม่สนนำเข้า การจะเลือกใช้ไม้ ควรเคลือบน้ำยากันปลวก และปกป้องเนื้อไม้ด้วย
ชนิดของระแนงไม้
1. ไม้ธรรมชาติ
มีจุดเด่นอยู่ที่รูปลักษณ์สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ แต่จะมีข้อจำกัดเรื่องความทนทาน เพราะเมื่อเจอกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทั้งแดด ลม ฝน อาจมีปัญหาไม้โก่ง บวม ผุพัง และยังอาจถูกปลวกกินได้ง่าย ดังนั้น หากจะติดตั้งระแนงจากไม้ธรรมชาติ ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลรักษามากเป็นพิเศษ
2. วัสดุทดแทนไม้
- ระแนงไวนิล (UPVC) เป็นพลาสติกชนิดหนึ่ง ข้อดีคือมีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย แต่ควรพิจารณาเลือกให้รอบคอบ เพราะสินค้าบางเกรดอาจไม่ทนทานเท่าที่ควร
- ระแนงพลาสวูด (WPC) เป็นวัสดุผสมระหว่างพลาสติก และไม้ ทำให้ดูสวยงาม เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ทนต่อสภาพอากาศได้ดี แต่ราคาจะค่อนข้างสูงกว่าวัสดุชนิดอื่น
- ระแนงไฟเบอร์ซีเมนต์ เป็นวัสดุทดแทนไม้ที่มีส่วนผสมของเส้นใยธรรมชาติ ปูน และทราย จุดเด่นคือ ความแข็งแรง ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ติดตั้งง่าย และยังมีลวดลายที่ใกล้เคียงกับไม้ธรรมชาติ ซึ่ง ไม้ระแนงเฌอร่า ก็เป็นไม้ระแนงที่ผลิตจากไฟเบอร์ซีเมนต์เช่นเดียวกัน
วัสดุใช้ทำระแนงไม้ สามารถนำไม้จริง หรือวัสดุทดแทนไม้มาใช้งานได้ โดยไม้จริง จะให้ผิวสัมผัสที่ดูเป็นธรรมชาติกว่า แต่มีข้อเสียในระยะยาว คือ สีจะซีดจาง และหากใช้งานภายนอก ไม้บางชนิดจะไม่ทนต่อแดดฝน และอาจมีปัญหาปลวกส่งผลให้ผุกร่อนได้
การนำระแนงไม้มาตกแต่ง มีอะไรบ้าง?
-
ผนังบังแดด พรางตา
บ้านที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ยังต้องการแสง ลม และมองเห็นความเคลื่อนไหวภายนอก สามารถเลือกติดตั้งทำเป็นผนังระแนงบังสายตาในจุดที่ต้องการบังตา เพิ่มความเป็นส่วนตัวจากสายตาคนนอก ปกปิดภูมิทัศน์ที่ไม่สวยงาม หรือติดในทิศที่มีแสงจ้า เพื่อลดทอนความร้อนจากแสงแดดให้กับอาคาร ซึ่งปัจจุบันมีการออกแบบที่หลากหลาย ทั้งแบบฟิกซ์ (Fixed) หรือติดตาย และทำเป็นระแนงไม้บานเลื่อน เพื่อเปิด-เปิดมุมที่ต้องการได้เช่นกัน จุดสำคัญควรคำนวณเรื่องระยะห่างระหว่างซี่ไม้ให้ลงตัว หากห่างจนเกินไป จะเกิดช่องว่างที่ไม่ค่อยสวยงาม เมื่อมองจากมุมมองภายนอก กลับกันหากเว้นระยะน้อยเกินไป จะแลดูเป็นผนังทึบที่ลมลอดผ่านได้ไม่เต็มที่
-
หลังคาโรงจอดรถ หรือหลังคาระเบียง
สำหรับบ้านที่ต้องการให้โรงจอดรถมีความโปร่ง แสงสว่างส่องเข้าถึงได้ ลองเปลี่ยนมาใช้วัสดุระแนงไม้เป็นโครงสร้างหลัก แล้วนำวัสดุที่สามารถกันแดดกันฝนที่มีความโปร่งแสง หรือโปร่งใส่มาวางทับชั้นบน เช่น แผ่นโปร่งแสงอะคลิลิก, แผ่นกรองแสงไฟเบอร์กลาส, กระจกลามิเนต, แผ่นโพลีคาร์บอเนต หรือแผ่นหลังคาโปร่งแสง uPVC เป็นต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้ครอบคลุมมากขึ้น ช่วยกรองแสงได้ในระดับหนึ่ง และช่วยกันฝนให้แก่รถ ลดทอนความแข็งให้กับบ้านโมเดิร์น ช่วยให้บ้านดูอ่อนโยน และอบอุ่นยิ่งขึ้น
-
ประตูบานพับ หรือเฟี้ยมนอกระเบียง
นอกจากจะใช้ไม้ระแนง บังสายตาเป็นผนังพรางตาแล้ว ยังสามารถออกแบบให้เป็นประตู หรือหน้าต่างระแนงไม้บานพับ หรือเฟี้ยม ที่ช่วยทั้งพรางตา กรองแสง และทำหน้าที่เป็นฟังก์ชันเสริมความความปลอดภัย เสมือนเป็นเหล็กดัดชั้นนอกปกป้องบ้านอีกชั้น ในการดีไซน์ประตูบานเฟี้ยม จุดหลักคืออุปกรณ์ฟิตติ้ง หรืออุปกรณ์ติดตั้ง ที่ต้องรับน้ำหนักของบานประตูได้อย่างเหมาะสม และมีความสมูทในการเปิด-ปิด
-
ราวกันตกบันไดจากไม้ระแนง
สำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์น ที่ดีไซน์บันไดเส้นสายเรียบ ๆ แบบที่ไม่มีราวจับ หรือยังมองหาราวจับที่ถูกใจไม่ได้ การทำราวกันตกด้วยระแนงไม้ เป็นไอเดียที่ให้ความปลอดภัย และสวยงามไปพร้อม ๆ กัน โดยตีระแนงจากพื้นขึ้นไปจรดฝ้าเพดาน ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะช่วยเป็นที่จับ และผนังกันตกให้แล้ว ยังเป็นฉากกั้นให้ความเป็นส่วนตัวขณะเดินขึ้น-ลง และยังสามารถเพิ่มฟังก์ชันอื่น ๆ ลงไปได้ เช่น เป็นโครงสำหรับติดตั้งตู้ลอยตัว หรือชั้นวางของโชว์ เป็นต้น
-
ผนังกั้นห้อง แบ่งโซน
บางมุมของบ้านที่มีฟังก์ชันการใช้งานต่อเนื่องกัน เช่น มุมนั่งเล่นกับโต๊ะทานอาหาร ห้องนอนกับโซนแต่งตัว หรือแม้แต่ในออฟฟิศสำนักงาน ที่ต้องการพื้นที่โปร่งกว้าง แต่ต้องการขอบเขตความเป็นส่วนตัว การนำระแนงไม้มาใช้เป็นผนังที่โปร่ง เพื่อแบ่งพื้นที่ให้เกิดความเป็นสัดส่วนโดยไม่ต้องกั้นผนัง จะช่วยตอบโจทย์ความโปร่งได้อย่างลงตัว ทั้งยังช่วยให้ห้องดูสูงยิ่งขึ้นด้วย หรือในกรณีที่ต้องการปิดซ่อนบางจุดที่ไม่สวยงาม ระแนงบังสายตา จะช่วยพรางตาจุดดังกล่าว ให้พื้นที่ภายในบ้านดูโปร่งสบายตาด้วย
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบัน มักจะเห็นบ้านพักอาศัย ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟ ในต่างจังหวัด แม้แต่ตามสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ มักนิยมใช้ระแนงไม้ เป็นส่วนประกอบของอาคารกันอย่างแพร่หลาย และในอนาคตจะยังคงมีการใช้ระแนงไม้ ในการตกแต่งมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง หวังว่าบทความนี้จะทำให้หลาย ๆ คน รู้จักกับระแนงไม้กันมากขึ้น ไม่มากก็น้อย ????????