เรียกได้ว่า รูปแบบ สไตล์การสร้างบ้านในปัจจุบันนั้น มีหลากหลายมากมายเลยทีเดียว โดยเฉพาะ “บ้านนอร์ดิก” ซึ่งสถาปนิก ได้ทำการออกแบบบ้าน โดยผสมผสานระหว่างสไตล์ Nordic และ Modern ทำให้มีชื่อเรียกใหม่ขึ้นมาว่า Modern Barn หรือบ้านสไตล์โรงนาประยุกต์ ที่มีรูปลักษณ์ทันสมัย ยิ่งสร้างความน่าสนใจมากขึ้น แต่การสร้างบ้านสไตล์นี้ ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ยังไม่ค่อยมีใครพูดถึง บทความนี้ KACHA จะพาไปรู้จัก บ้านสไตล์นอร์ดิก ให้มากขึ้นกัน เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบในบ้านสไตล์นอร์ดิก หรือ Modern Barn สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้
บ้านนอร์ดิก คือ?
สไตล์นอร์ดิก (Nordic Style) หรืออีกชื่อหนึ่งที่นิยมเรียก คือ สไตล์สแกนดิเนเวียน (Style Scandinavian) ทั้ง 2 สไตล์นี้ คือ แบบเดียวกัน หมายถึงสไตล์การออกแบบ การตกแต่งบ้านของคนในแถบยุโรปเหนือ เช่น เดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน และฟินแลนด์ เป็นต้น โดยประชากรที่อาศัยอยู่ในแถบนี้ จะเรียกว่าชาวนอร์ดิก นี่จึงเป็นที่ของชื่อ นอร์ดิก นั่นเอง
ลักษณะเด่นของบ้านสไตล์นอร์ดิก เป็นอย่างไร?
บ้านนอร์ติก การออกแบบตัวอาคาร ลักษณะเป็นทรงเรขาคณิตที่ดูเรียบง่าย สบายตา ไม่มีรายละเอียดที่ซับซ้อน หรือเกินความจำเป็น เส้นสายที่สะอาด เป็นเส้นนำสายตาดึงดูดความสนใจ หลังคาทรงจั่วสูง ภายในโปร่งโล่ง สบาย การออกแบบที่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย และโดดเด่นด้วยความสวยงาม เน้นช่องแสงจากกระจกในการรับแสงจากธรรมชาติ
ภาพ : scgbuildingmaterials.com
การยกจั่วสูงที่ทำให้หลังคาลาดชัน ซึ่งความลาดเอียงในระดับที่มากกว่าปกติจะช่วยให้น้ำฝนไหลลงด้านล่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่เกิดน้ำขังบริเวณหลังคาจนเกิดการรั่วซึมได้ง่าย นอกจากนี้โครงหลังคาที่สูงยังช่วยให้ภายในตัวบ้านโปร่งโล่ง อากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงได้ดี หากเสริมช่องระบายอากาศเพิ่มจะเอื้อให้อากาศถ่ายเทสะดวก ภายในบ้านอยู่เย็นสบายตลอดเวลา เน้นความเป็นธรรมชาติ บรรยากาศของความเรียบง่าย สงบ อบอุ่นและผ่อนคลายแก่ผู้อยู่อาศัย มักตกแต่งด้วยโทนสีของธรรมชาติ เช่น การเลือกใช้โทนสีขาวเป็นสีพื้น สีเอิร์ธโทน อย่างสีน้ำตาลของไม้ เป็นต้น
จุดควรระวัง เมื่อสร้างบ้านสไตล์นอร์ดิก
บ้านสไตล์ Nordic หรือ Modern Barn มีต้นกำเนิดมาจากสถาปัตยกรรมในยุโรป ซึ่งเป็นโซนเมืองหนาวผู้อยู่อาศัยจึงต้องการความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ การออกแบบบ้านจึงเน้นเปิดช่องแสง เพื่อให้สามารถนำแสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามาสู่อาคารได้ และด้วยลักษณะสถาปัตยกรรม ที่ได้รับอิทธิพลจากโรงนาที่ไม่มีกันสาด ดังนั้น การยกรูปแบบของนอร์ดิกมาใช้เลย โดยไม่ปรับประยุกต์ให้เข้ากับบริบทของเมืองไทย จะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้ สิ่งที่ควรระวัง มีอยู่ 3 ประการหลัก ดังนี้
1.บ้านนอร์ดิก กับปัญหาความร้อน
หลาย ๆ คน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ร้อนแน่…บ้านแบบนี้” ซึ่งต้องยอมรับว่า จริงบางส่วน เพราะด้วยหลังคาทรงจั่วแบบไร้ชายคา และการใช้กระจกเป็นองค์ประกอบของบ้านค่อนข้างมาก ย่อมส่งผลให้บ้านได้รับความร้อนเข้าสู่ภายในได้มากขึ้น แต่หากวางแผนงานให้ดีตั้งแต่ต้น ปัญหานี้ ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการออกแบบ เช่น การเลือกทิศทางห้องแต่ละห้อง ให้เหมาะกับทิศทางแสงแดด ห้องที่ไม่เน้นช่องเปิดมากให้ไว้ฝั่งทิศใต้ และทิศตะวันตก ส่วนห้องที่มีช่องกระจกบานใหญ่ เลือกไว้ในทางทิศเหนือ กรณีบ้านที่เลี่ยงทิศเปิดไม่ได้ เพราะบังคับด้วยวิว หรือมุมหน้าบ้าน ให้ออกแบบอาคารลักษณะเว้าเข้าไป เพื่อให้จุดเว้าเป็นชายคาโดยอัตโนมัติ
ภาพ : Makingyourhomebeautiful.com
นอกจากการออกแบบแล้ว วัสดุก็มีส่วนสำคัญมาก เช่น การเลือกทำผนังอิฐ 2 ชั้น การเลือกวัสดุมุงหลังคา ที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน พร้อมติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อน และฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา โดยเฉพาะจุดที่ต้องการทำฝ้าสูงโปร่งตามแนวจั่ว จะต้องเพิ่มคุณสมบัติกันความร้อนมากเป็นพิเศษ หรือหากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการหมุนเวียนอากาศด้วยกลไกลธรรมชาติ สามารถใช้ระบบ Active Airflow ที่ติดตั้งบนหลังคาทรงจั่วได้ โดยก่อนติดตั้งจะมีวิศวกรมาตรวจสอบให้ก่อน และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ ต้นไม้ ช่วยให้ บ้านสไตล์นอร์ติก ดูมีชีวิตชีวา ลดอุณหภูมิร้อนทางสายตาได้เป็นอย่างดี
2.บ้านนอร์ดิก ฝนสาด ผนังชื้น
เสน่ห์ของบ้านModern Barn คือ เส้นสายของหลังคาแบบไร้ชายคา หากใส่กันสาดเข้าไป อาจทำให้เสน่ห์ของบ้านสไตล์นี้ลดลงได้ เจ้าของบ้าน จึงต้องทำความเข้าใจ เพื่อออกแบบรับมือกับความชื้นบนผนัง และฝนสาดให้ได้ตั้งแต่ต้น เช่น จุดพักผ่อนสำคัญอย่างห้องนั่งเล่น ให้ออกแบบด้วยวิธีการร่นผนังเว้าเข้าไป เพื่อให้หลังคาทำหน้าที่เป็นกันสาดไปในตัว ส่วนปัญหาฝนสาดบริเวณหน้าต่างฝั่งที่ไม่มีชายคา จำเป็นต้องเลือกบานหน้าต่างขอบอtลูมิเนียม หรือไวนิล จะช่วยป้องกันน้ำซึมได้ดีกว่าวงกบไม้ ส่วนปัญหาผนังชื้น สามารถป้องกันได้ด้วยการทาสีที่มีคุณสมบัติป้องกันความชื้น ป้องกันเชื้อรา
ภาพ : scgbuildingmaterials.com
กรณีต้องการทำเฉลียงพักผ่อน ให้ออกแบบเฉลียงยื่นออกจากตัวบ้าน โดยเลือกใช้หลังคากล่องแบน จะช่วยให้ภาพรวมของบ้านดูเข้ากัน การมีเฉลียง จึงช่วยกันฝนสาด และกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้
อ่านบทความ : รู้จักกับ ความชื้นในบ้าน สาเหตุและวิธีแก้ไขทำได้อย่างไร?
3.หลังคารั่วซึม
แม้ว่าบ้าน Modern Barn จะมีจั่วสูง แต่ก็อาจเกิดปัญหารั่วซึมบนหลังคาได้ หากขาดการมุงหลังคาที่ดี การรับมือกับปัญหานี้ สามารถทำได้ด้วยการการออกแบบความลาดเอียงของหลังคาให้เหมาะสมกับรุ่นวัสดุหลังคานั้น ๆ เช่น ใช้หลังคากระเบื้องแผ่นเรียบ แต่หากต้องการให้การระบายน้ำทำได้ดีขึ้น ควรออกแบบให้หลังคาชันมากขึ้นที่ 30-35 องศา จะช่วยลดปัญหารั่วซึม และปัญหาน้ำไหลย้อนได้
อีกจุดที่มักมีปัญหากับหลังคาจั่ว คือ ปั้นลม ทำหน้าที่กันลมไม่ให้ปะทะกับกระเบื้องหลังคาโดยตรง และช่วยกันน้ำฝนไม่ให้เข้าอาคาร วัสดุที่นิยมนำมาใช้เป็นปั้นลม มีทั้งไม้จริง ไม้สังเคราะห์ ปั้นลม ค.ส.ล. หรือที่นิยมมากในยุคปัจจุบัน และดูเข้ากับบ้านสไตล์นอร์ดิก คือ การนำไม้ C Channel มาประยุกต์ใช้ ทำให้ดูเสมือนบ้านโครงสร้างเหล็ก
เป็นอย่างไรกันบ้าง บ้านนอร์ดิก ที่เรานำมาฝากกัน คงทำให้หลาย ๆ คนที่คิดจะสร้างบ้าน ได้นำไปเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ ในการเลือกแบบบ้านเหมาะสมกับคุณเองมากที่สุด เพื่อการอยู่อาศัยในระยะยาว 🙂 สามารถศึกษาหาข้อมูล สาระน่ารู้เกี่ยวกับ “การสร้างบ้าน” ที่ควรรู้! ได้ที่นี่
- รู้ก่อนสร้าง บ้านทรงไทย ข้อดี-ข้อเสีย เป็นอย่างไร?
- รู้ก่อนสร้าง “บ้านสไตล์ลอฟท์” ข้อดี-ข้อเสีย เป็นอย่างไร?
- ออกแบบบ้าน ด้วยตัวเอง สวยโดนใจ ไม่ง้อช่าง ต้องรู้อะไรบ้าง?
- รีโนเวท บ้านชั้นเดียว เตรียมพร้อมก่อนลงมือทำ ต้องรู้อะไรบ้าง?
- บ้านปูน คืออะไร? ทำไมนิยมสร้าง ข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้
- มินิมอล คืออะไร? ทำไมถึงนิยมในงานออกแบบ
● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ●
KACHA ผู้จัดจำหน่าย เครื่องมือช่างราคาถูก และอุปกรณ์เสริม สำหรับช่างมืออาชีพ ราคาที่คุณจับต้องได้ รับรองสินค้าคุณภาพ บริการหลังการขายที่ประทับใจอย่างแน่นอน!!