สกิมโค้ท คือ ใช้งานอย่างไร ให้ปิดรอยร้าวได้เรียบสนิท เหมือนใหม่
สกิมโค้ท ปูนสกิมโค้ท คืออะไร ใช้งานอย่างไร ให้ปิดรอยร้าวได้เรียบสนิท เหมือนใหม่ SGE มีคำตอบ
ใครมีปัญหาผนังร้าว แตกลายงา มีฟองอากาศ รูพรุนตามด แล้วละก็ ตามมาดูกันเลย
สกิมโค้ท คือ
สกิมโค้ท คือ ปูนชนิดหนึ่ง ใช้สำหรับฉาบผิวผนัง กำแพงบ้าน เพื่อปิดรอยแตกลายงา รอยร้าว ที่ไม่ได้เกิดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง ตลอดจน รูพรุน ผิวเม็ดทรายต่าง ๆ ช่วยให้ผิวผนังเรียบเนียน สวยงาม เหมือนใหม่
ปูนสกิมโค้ท ใช้ทำอะไร
1. ปิดรอยร้าว
หากเป็น รอยร้าว ที่ไม่ได้เกิดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง แต่เป็นรอยร้าวเล็ก ๆ หรือ Hairline cracks ที่มีความกว้างไม่เกิน 0.3 มิลลิเมตร บริเวณผนังภายนอก ผนังภายใน หรือ เสาบ้าน ซึ่งมักเกิดปัญหาเปียกชื้น โดนแดด หรือ โดนฝนบ่อย ๆ สามารถใช้ปูน สกิมโค้ท ฉาบเพื่อปิดรอยร้าวนั้น ๆ ได้
2. ปิดรอยแตกลายงา
รอยแตกลายงา เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ปูนที่ใช้ฉาบไม่มีคุณภาพ หรือ ใช้บริการช่างที่ไม่มีความชำนาญเพียงพอ ส่งผลให้เมื่อฝนตก น้ำฝนจะซึมเข้าไปตามรอยแตก รูพรุนตามด จนเกิดความชื้นสะสม ส่งผลให้ผนังเกิดรอยแตกลายงา ซึ่งวิธีแก้ สามารถใช้ ปูนสกิมโค้ท ฉาบเพื่อปิดรอยแตกลายงาให้เรียบสนิท
3. ปิดฟองอากาศและรูพรุนตามด
ฟองอากาศและรูพรุนตามด มักเกิดจากน้ำและอากาศส่วนเกิน แทรกอยู่ในเนื้อคอนกรีต ตอนเทเข้าแบบ ทำให้ผนังเป็นรูเล็ก ๆ ไม่เรียบเนียนสวยงาม แก้ไขได้โดยใช้ปูนฉาบอุดรูพรุน แล้วใช้ปูนสกิมโค้ท ฉาบผนังให้เรียบเนียนสนิทอีกรอบ
4. ปิดผิวเม็ดทราย
ถ้าผิวผนังมีความสากมือ เหมือนมีเม็ดทรายเล็ก ๆ แทรกอยู่ อาจเกิดจากช่างปูนใช้ทรายที่มีความหยาบ ไม่ละเอียดเพียงพอ มาใช้ผสมปูนก่อผนัง สามารถแก้ไขได้ โดยใช้ปูนสกิมโค้ทฉาบผนังให้เรียบสนิท เหมือนใหม่
วิธีใช้ ปูนสกิมโค้ก
1. ตรวจสอบอาการของผนัง
- ตรวจสอบอาการของผนังว่า มีรอยร้าว รอยแตกลายงา มีฟองอากาศและรูพรุนตามด ตรงจุดไหนบ้าง โดยหากเป็นรอยร้าว ควรดูว่า มีความกว้างไม่เกิน 3 มิลลิเมตรหรือไม่ เพราะหากกว้างกว่านั้น อาจเกิดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งควรจะใช้ช่างที่มีความชำนาญมาช่วยแก้ไข
- เคาะผนังตรงจุดนั้น ๆ เพื่อตรวจสอบปูนฉาบว่าเกาะผนังดีหรือไม่ หากได้ยินเสียงโปร่ง ซึ่งแสดงว่าปูนฉาบไม่เกาะผนัง ต้องสกัดปูนฉาบออกให้หมด แล้วฉาบผนังใหม่อีกครั้ง แต่ถ้าเคาะผนังแล้วเสียงยังแน่น แสดงว่าปูนฉาบเกาะผนังดีอยู่ สามารถใช้ปูนสกิมโค้ทฉาบผนังได้เลย
2. เตรียมพื้นผิว
- พื้นผิวเก่า ที่มีการทาสี แล้วสีเดิมเสื่อมสภาพ หรือ ผิวหลุดล่อน ลอกเป็นขุย ให้ขัดล้างสีเดิมออก แล้วลงน้ำยารองพื้น 1 รอบ เพื่อเสริมการยึดเกาะของพื้นผิว ก่อนฉาบสกิมโค้ท
- พื้นผิวใหม่ ให้ใช้ไม้กวาดกวาดเศษผง เศษฝุ่นให้สะอาด ถ้ามีคราบสกปรก ให้ใช้แปรงตีน้ำขัดให้สะอาด แล้วทิ้งผนังให้แห้งอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนใช้สกิมโค้ทฉาบผนัง
3. ผสมสกิมโค้ท
ผสม สกิมโค้ท กับ ปูนซีเมนต์ ตามอัตราส่วนที่ระบุไว้ข้างผลิตภัณฑ์ ในบางยี่ห้อ อาจต้องผสมน้ำลงไปด้วย ทั้งนี้ เพื่อความรวดเร็ว แนะนำให้ใช้สว่านในการช่วยผสม หรือถ้าใครต้องการความสะดวกมากกว่านั้น สามารถเลือกใช้ ปูนสกิมโค้ทแบบสำเร็จรูป แทนก็ได้
4. ฉาบสกิมโค้ทบนผิวผนัง
ฉาบสกิมโค้ทบนผิวผนัง โดยใช้เกรียงปาดหน้า ฉาบผิวผนังตรงพื้นผิวที่ต้องการ โดยเทคนิคฉาบผิวผนัง ให้ปาดจากล่างขึ้นบน แล้วทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 24 ชั่วโมง แล้วฉาบอีกรอบ เป็นอันเสร็จ โดยความหนาในการฉาบต่อชั้น ควรยึดตามข้อมูลที่ระบุไว้ข้างผลิตภัณฑ์
5. ขัดพื้นผิวด้วยกระดาษทราย
หลังจากทิ้งพื้นผิวจนแห้งสนิทดีแล้ว ให้ปรับแต่งพื้นผิว โดยใช้กระดาษทรายขัด ขัดให้เรียบ เพียงแค่นี้ ก็จะทำให้ผนังของคุณให้เรียบเนียน สวยงาม เหมือนใหม่ อย่างง่าย ๆ ได้แล้ว
เลือกซื้อ สกิมโค้ท อย่างไรให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพ
1. เลือกซื้อแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ
อยากใช้งานสกิมโค้ทที่มีคุณภาพ ควรเลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีชื่อเสียง และ เป็นที่ยอมรับ โดยตัวอย่างแบรนด์ผู้ผลิตสกิมโค้ทที่เป็นที่นิยมในท้องตลาด เช่น TOA ลูกดิ่ง จระเข้ เป็นต้น
2. เหมาะกับพื้นผิวที่เราต้องการ
เลือกสกิมโค้ทให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวที่เราต้องการแก้ไข โดยเฉพาะคนที่ผนังเป็นพื้นผิวเก่า ที่มีการทาสีทับไว้ หากไม่อยากเปลืองแรง ขัดเอาสีที่ลอก ล่อนเป็นขุยออก ก่อนฉาบสกิมโค้ท ควรเลือกสกิมโค้ทแบบที่ฉาบทับผนังเก่า ผนังทาสีได้เลย จะช่วยให้ฉาบผนังได้ง่ายขึ้น
3. ผสมง่าย ไม่เปลืองแรง
ปัจจุบัน สกิมโค้ท มีทั้งแบบที่ต้องนำมาผสมกับปูนซีเมนต์ก่อนใช้งาน กับ แบบสำเร็จรูป ที่สามารถเปิดฝาคน แล้วใช้งานได้ทันที หากใครสะดวกแบบไหน ก็สามารถเลือกซื้อได้ตามใจชอบ
หากใครมีปัญหาผนังบ้านแตก เป็นรอยร้าว รอยแตกลายงา มีฟองอากาศ หรือ รูพรุนตามด แล้วละก็ สามารถใช้ปูนสกิมโค้ทฉาบผนังให้เรียบเนียนสนิทได้ ซึ่งการเลือกซื้อมาใช้งาน ควรเลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ เหมาะกับพื้นผิวที่เราต้องการ และ ผสมง่าย ไม่เปลืองแรง เพียงแค่นี้ คุณก็จะสามารถฉาบผนังบ้านของตนเองให้เรียบเนียน สวยงาม อย่างง่าย ๆ ได้แล้ว
บทความที่น่าสนใจ